ยาลดน้ำหนัก ฟันธง
ยาลดน้ำหนักทั้งมีอันตราย และยังทำให้โยโย่แน่นอน
ไม่ว่าจะราคาถูกแค่ไหนก็ไม่คุ้ม เพราะเราต้อง
เอาชีวิตไปเสี่ยง และเรายังต้องอ้วนขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
สรุปว่าหากเราทานยาลดน้ำหนัก
ผลลัพธ์ที่ได้จะมีแค่
4 ทางเท่านั้น คือ ตาย เอ๋อ อ้วน โทรม
ยาลดน้ำหนักจึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาทางจิตใจที่ไม่สามารถบังคับตัวเองได้
“เท่านั้น”
ส่วนใครที่ยังมีสติครบถ้วนและมีปัญญาพิจารณาได้
ก็ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะไปใช้วิธีนี้ (เตือนแล้วนะ)
ทำไมบางคนทานแล้วไม่ได้ผล
จากข้อมูลที่ผ่านมาคงทำให้เราพอจะเข้าใจมากขึ้น
ว่าอาหารเสริมเหล่านี้จะช่วยให้เราได้รับพลังงาน
จากอาหารน้อยลง หรือเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นไม่มากอย่างที่เราคิด (50 –
100 กิโลแคลอรีต่อวัน) อาหาร
เสริมเหล่านี้ จึงไม่ได้ช่วยให้เราลดน้ำหนักได้อย่างที่ตั้งใจ
ในขณะเดียวกันคนที่ทานอาหารเสริม มักจะไม่ควบคุมอาหาร
จึงมีโอกาสทานอาหารในระดับปกติ
ที่ทาน หรืออาจจะทานมากกว่าที่เคยทานเพราะชะล่าใจว่ามีตัวช่วยแล้ว
จึงทำให้ยังได้พลังงานจากอาหารที่
ทานมากกว่าพลังงานที่ใช้ น้ำหนักตัวจึงอาจจะเพิ่มขึ้นได้
เช่น ปกติร่างกายเราเผาผลาญพลังงานประมาณ 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน แล้วเราทานอาหารได้
พลังงาน 2,300 กิโลแคลอรีต่อวัน (น้ำหนักค่อยๆ เพิ่มขึ้น)
พอเรามาทานอาหารเสริมที่เร่งการเผาผลาญ
ร่างกายเราเผาผลาญเพิ่มขึ้น 5% กลายเป็น 2,100 กิโลแคลอรีต่อวัน แต่เรายังทานอาหารได้พลังงาน 2,300
กิโลแคลอรีเท่าเดิม เราก็ยังคงได้พลังงานจากอาหารที่ทานมากกว่าที่ใช้
น้ำหนักจึงไม่ลดแต่จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น
หรือร่างกายเราเผาผลาญพลังงานประมาณ 2,000
กิโลแคลอรีต่อวัน ปกติเราทานอาหารได้พลังงาน
2,300 กิโลแคลอรีต่อวัน
พอเรามาทานอาหารเสริมที่ดักจับคาร์โบไฮเดรตได้ 20 กรัม
เราได้พลังงานจาก
อาหารลดลง 80 กิโลแคลอรีต่อวันเหลือ 2,220
กิโลแคลอรี โดยที่ร่างกายเรายังคงเผาผลาญพลังงานเท่าเดิม
เราก็ยังคงได้พลังงานจากอาหารที่ทานมากกว่าที่ใช้ น้ำหนักก็จะค่อยๆ
เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น