สมุนไพรว่านชักมดลูก
แนวทางทางด้านยาสมุนไพรโบราณ
กำลังกลับมาเป็นสิ่งที่ได้รับค่านิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ซึ่งหนึ่งในยาแผนโบราณพวกนั้น ชื่อที่เรามักได้ยินผ่านหูกันบ่อยครั้งก็ได้แก่ “ว่านชักมดลูก” ที่ได้ถูกแปรรูปนำมาวางจัดจำหน่ายให้เห็นในท้องตลาดกันบ่อยครั้ง
แต่เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังสงสัยในสรรพคุณของ ว่านชักมดลูกแคปซูล ว่าเป็นเช่นใด
พร้อมกับวิธีกินว่านชักมดลูกที่ถูกต้อง
ต้องทำประการใดจึงจะให้ผลลัพธ์ที่เยี่ยมในการบำรุงร่างกายและจิตใจ อย่างสูงสุดนั้น
เรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับ สมุนไพรว่านชักมดลูกแคปซูล เหล่านี้
สามารถติดตามอ่านได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย
ว่านชักมดลูกคืออะไร?
ว่านชักมดลูก เป็นสมุนไพรที่ถูกจัดอยู่ในวงศ์ของ “ขิง” เป็นกลุ่มเดียวกับขมิ้นชัน
เป็นพฤกษาที่มีลำต้น แต่มีหัวฝังตัวอยู่ใต้ดินซึ่ง ว่านชักมดลูกเองก็มีอยู่หลายสายพันธุ์
ว่านชักมดลูก ที่เรารู้จักกันมีอยู่ 2 ประเภทซึ่งอาจแบ่งได้ตามสายพันธุ์ คือ
1. ว่านชักมดลูกตัวผู้
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma latifolia.
2. ว่านชักมดลูกตัวเมีย
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma comosa Roxb.
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า
ภายในว่านชักมดลูกนั้น มีสาระเด่นอยู่อีกหลายอย่าง โดยหลักๆ
จะเป็นสารที่ช่วยให้มีการหลั่งน้ำดีมากขึ้น ทำให้ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
มีฤทธิ์เทียบเท่ากับวิตามันซีด้วย
ช่วยในการบำรุงหลอดเลือดพร้อมทั้งหัวใจได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยขับไขมันและคอเรสเตอรอลออกจากสังขารของเราได้ด้วย
ว่านชักมดลูก มีวิธีกินอย่างไร?
การทานว่านชักมดลูกนั้น
สามารถบริโภคได้หลายแบบ อย่างเช่น กินหัวสด กินแบบตำแล้ว หรือไม่อาจจะกินจากผง
ซึ่งการกินแต่ละแบบนั้น ก็จะแตกต่างกันออกไป โดยรับประทานแบบหัวสดนั้น ผู้หญิงที่เพิ่งคลอดบุตรใหม่
จะนิยมทานด้วยวิธีนี้ เพื่อปกป้องรักษาโรคลำไส้
หรือจะนำเอาว่านชักมดลูกไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปต้ม เอาน้ำมาดื่ม
เพื่อรักษาพยาบาลโรคริดสีดวงทวาร หรือไม่ว่าจะฝนให้ละเอียด แล้วผสมกับสุราดื่ม
โดยวิธีนี้จะช่วยรักษาพยาบาลมดลูกพิการได้ หรือจะฝานว่านชักมดลูกออกเป็นชิ้นๆ
แล้วนำไปปิ้งหรือย่าง ก่อนนำมาดองเหล้าก็ได้ โดยวิธีนี้จะช่วยลดอาการตกขาวได้
สุดท้ายสำหรับการโภคแบบหัวสด คือการนำว่านชักมดลูกไปดองเหล้าจากนั้น
ก่อนจะกินก็ให้เอาไปหมักกับน้ำปูนใส โดยวิธีนี้จะช่วยในผู้หญิงที่แท้งลูก ทำให้ความเจ็บป่วยต่างๆหายไปได้
การทานแบบผง
จะเป็นการนำว่านชักมดลูกมาตำให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกรอก
จะทำให้ทานง่ายขึ้น เพราะว่ามีลักษณะคล้ายกับเม็ดยานั่นเอง
ซึ่งวิธีนี้จะช่วยในการขับไขมันพร้อมทั้งคอเรสเตอรอลออกจากเส้นเลือดได้
ยิ่งไปกว่านี้แล้ว ยังมีว่านชักมดลูกแบบสำเร็จรูป ที่ขายตามร้ายขายยา
ซึ่งวิธีกินว่านชักมดลูกแบบสำเร็จรูปนั้น
จะมีวิธีรับประทานติดไว้อยู่ข้างขวดนั่นเอง
รูปแบบและวิธีการใช้ ว่านชักมดลูก
ตามตำราโบราณ
- นำหัวว่านชักมดลูกมาฝนกับเหล้าดื่ม
หรือใช้ปรุงยาต้ม แก้มดลูกพิการปวดบวม ทำให้มดลูกรัดตัวเล็กลง เรียกว่า
มดลูกเข้าอู่ สำหรับสตรีที่คลอดบุตรใหม่
2. โรคลำไส้ ริดสีดวงทวาร
- นำหัวว่านสดมารับประทานแก้โรคลำไส้
หรือ ใช้หัวว่านชักมดลูกตำเป็นผงกินกับน้ำร้อน รักษาริดสีดวงทวารชนิดกลีบมะไฟ
ด้วยกันเดือยไก่
- หรือนำหัวว่านชักมดลูกสด
รับประทานแก้โรคริดสีดวงทวารได้ โดยตำให้แหลกผสมน้ำเหล่านั้นให้สิ้นไป หรือหากแท้งลูกใหม่ๆ ก็ให้รับประทานว่านชักมดลูกนี้กับเหล้า หรือน้ำปูผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน
หรือไม่ก็จะดื่มกับน้ำร้อนก็ได้ผลเช่นเดียวกัน
3. แก้อาการมดลูกพิการ หรือไม่แก้มุตกิตระดูขาว
- ให้นำหัวว่านชักมดลูกไปฝานเป็นชิ้นๆ
จากนั้นนำไปปิ้งหรือย่างไฟให้แห้ง จากนั้นนำมาดองกับเหล้าสกัดสักสองสามวัน
ดื่มวันละสองเวลาก่อนอาหาร จะช่วยบำบัดอาการทั้งหลานใสอาการเจ็บป่วยต่างๆจะหายไปได้
4. แก้กษัย ปัสสาวะขุ่น เบาแดง เบาเหลือง เบาหวาน
- สำหรับท่านชายหากเป็นกษัย
ปัสสาวะขุ่นข้อง เบาแดง เบาเหลือง หรือขุ่นข้น เบาหวาน จะแก้ให้หายได้
โดยดื่มน้ำดองหัวว่านเป็นระยะเวลาเสมอ ก็จะปราศจากอาการดังกล่าว
5. รักษาผู้ชายที่เป็นไส้เลื่อน
กระบังลมเคลื่อน
- ให้นำหัวว่านชักมดลูกมาโขลก
ผสมกับเหล้าขาว 40 ดีกรี กรองเอาแต่น้ำดื่ม
ข้อควรระวังในการใช้ว่านชักมดลูก
1. มีอาการตกขาวมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยที่สุด
แต่ก็มีคำแนะนำว่าสามารถรับประทานต่อไปได้เลย
2. มีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ตัวร้อน มีอาการไอเหมือนจะเป็นไข้
ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้สุภาพสตรีที่ร่างไม่แข็งแรง
และมีคำแนะนำว่าให้หยุดรับประทานสักพักจนกว่าอาการไข้จะหายไป
แล้วให้รับประทานต่อในปริมาณที่ลดลงครึ่งหนึ่ง
3. มีผื่นขึ้นบริเวณผิวหนังและตามลำตัว ซึ่งเป็นอาการที่พบได้น้อย
มีคำแนะนำว่าถ้าหากอาการไม่รุนแรงมากจนเกินให้กินต่อได้
แต่ถ้าผื่นมากก็ให้ลปริมาณลงครึ่งหนึ่ง
หากอาการดีขึ้นค่อยกลับมากินในปริมาณที่กำหนด
4. มีอาการปวดหน้าอก ตึงหน้าอก หรือปวดมดลูก ช่องคลอด แนะนำว่าหากมีอาการดังกล่าวให้ลดปริมาณยาลงครึ่งหนึ่ง
หลังจากอาการดีขึ้นค่อยรับประทานในปริมาณที่กำหนด
5. สำหรับสตรีวัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือน
หลังจากรับประทานอาจจะมีประจำเดือนใหม่เกิดขึ้นได้ โดยคุณสามารถรับประทานต่อไปได้
ประจำเดือนก็จะค่อยๆ หมดไปเอง
6. หากรับประทานว่านชักมดลูก ห้ามกินของคาวจัด หรือมันเลี่ยนเกินไป
เพราะจะทำให้ตัวยาอ่อนฤทธิ์ลงได้
นอกจากนี้แล้ว
ว่านชนิดนี้ยังช่วยในการบำบัดอาการของผู้หญิงได้หลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นอาการที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ มาแล้วขาดๆ หายๆ ตกขาว น้ำคาวปลา
กับรวมไปถึงริดสีดวงทวาร ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไป เมื่อใช้ว่านชักมดลูกบำบัด
โดยในสมัยปัจจุบันนี้ มีนักวิทยาศาสตร์หลายคน นำเอาว่านชักมดลูกมาแปรรูปให้เป็นยา
เพื่อสะดวกในการกิน พร้อมด้วยหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปได้
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับว่านชักมดลูกก็คือ สามารถช่วยบำบัดรักษาผู้หญิงที่กำลังเข้าสู่วัยทองได้
อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่า ผู้หญิงวัยทองส่วนใหญ่มักจะมีอาการหงุดหงิด
แสบร้อนตามผิวหนัง บางคนมีไขมันอุดตันในเส้นเลือด รวมไปถึงเป็นโรคกระดูกพรุนได้
ซึ่งสภาพเหล่านี้ จะนำไปสู่ความผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย จนอาจกลายเป็นโรคเรื้อรัง
กับโรคมะเร็งได้
เวปไซต์ thaiherbweb.com
Line ID THAIHERBWEB และ THAIHERBWEB1
เบอร์โทร 0973199029, 0805842717, 021387031, 0863515214
EMAIL thaiherbweb@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น