มะรุมแคปซูล
สรรพคุณบำรุงร่างกายรักษาโรค
มะรุม เป็นผัก สมุนไพรพื้นบ้านของเรา
มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร, ยา
และด้านอุตสาหกรรม โดยธรรมชาติแล้วมะรุมเป็นไม้ยืนต้นที่เติบโตได้เร็ว
ทนความแห้งแล้ง สามารถปลูกได้ในเขตร้อน
เนื่องจากการเจริญเติบโตจะดีในแถบเอเชียซึ่งมีอาการร้อน การเติบโตอาจสูงได้ถึง 4 m. และสามารถออกดอกในระยะเวลาปีแรกหลังจากที่ปลูก
สมุนไพรมะรุม ในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Moringa และ มะรุม
ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Moringa oleifera Lam มะรุมจะมีการเรียกต่างกันตามแต่ภูมิภาค
เช่น ชาวอีสานเรียกกันอยู่สองอย่างคือ “ผักอีฮุม” และ
“บักฮุ้ม” ชาวเหนือเรียกกันว่า
“บะค้อนก้อม”
มะรุมมีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียบางประเทศ
เช่น ศรีลังกา และอินเดีย นอกจากนี้ยังมีในทวีปแอฟริกา สามารถปลูกได้ง่าย
เจริญเติบโตดี ได้ในดินทุกๆประเภท มีความต้องการน้ำ ความชื้นปานกลาง
เราสามารถขยายพันธุ์มะรุมด้วยวิธีเพาะการเมล็ด และวิธีการปักชำ เวลาประมาณ 2
สัปดาห์หลังการปลูก ต้นมะรุมจะมีความสูงประมาณ 10-20 cm.
ในตำรา ยาพื้นบ้านใช้ใบมะรุมพอกแผลช่วยห้ามเลือด
ทำให้นอนหลับ เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ และช่วยแก้ไข้ ใช้ส่วนดอกและผลเป็นยาบำรุง
ขับ ปัสสาวะ และแก้ไข้ ใช้ส่วนเมล็ดบดพอกแก้ปวดตามข้อ และแก้ไข้
การกินใบสดและใบแห้ง
อย่างไหนจะให้ผลดีกว่ากัน
การกินใบสดดี แต่ไม่สามารถกินได้มาก
เพราะใบสดจะขับสารพิษมากกว่า เช่น อาการท้องเสีย
เป็นอาการที่เกิดจากการกินพืชและผลไม้สดทุกชนิด ส่วน ใบแห้งกินได้ในปริมาณมากกว่าถึง
10 เท่า ให้ร่างกายรับสารอาหารได้ใน จำนวนที่พอเพียง
นักค้นคว้าและวิจัยจากหลายสถาบันเห็นพ้องต้องกันว่า ใบ มะรุมแคปซูลที่ผ่านกรรมวิธีการเก็บรักษาอย่างถูกต้องและถูกสุขลักษณะ
สารอาหาร จะเสื่อมน้อยที่สุดและปลอดภัยมากที่สุด
มะรุมแคปซูลสรรพคุณ ทางยา
มะรุม ในทางการแพทย์จะช่วยใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน
ควบคุมภาวะความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
- · ใบ ใช้ถอนพิษไข้ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ แก้แผล ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับปัสสาวะ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต
- · ยอดอ่อน ใช้ถอนพิษไข้
- · ดอก ใช้แก้ไข้หัวลม เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ ขับน้ำตา ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันมะเร็ง
- · ฝัก แก้ไข้ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต
- · เมล็ด เมล็ดปรุงเป็นยาแก้ไข้ แก้บวม แก้ปวดตามข้อ ป้องกันมะเร็ง นำเมล็ดมะรุมมาสกัดน้ำมันสามารถใช้ทำอาหาร รักษาโรคปวดตามข้อ โรคเก๊าท์ รักษาโรครูมาติซั่ม และรักษาโรคผิวหนัง แก้ผิวแห้ง ใช้แทนยารักษาผิวให้ชุ่มชื้น รักษาโรคอันเกิดจากเชื้อรา
- · เนื้อในเมล็ดมะรุม ใช้แก้ไอได้ดี การรับประทานเนื้อในเมล็ด เป็นประจำสามารถเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายได้
- · ราก รสเผ็ด หวาน ขม สรรพคุณ แก้อาการบวม บำรุงไฟธาตุ รักษาโรคหัวใจ รักษาโรคไขข้อ (rheumatism)
- · เปลือกลำต้น รสร้อน สรรพคุณขับลมในลำไส้ ทำให้ผายหรือเรอ คุมธาตุอ่อน ๆ แก้ลมอัมพาต ป้องกันมะเร็ง คุมกำเนิด เคี้ยวกินช่วยย่อยอาหาร
- · ยาง (gum) ฆ่าเชื้อไทฟอยด์ ซิฟิลิส (syphilis) แก้ปวดฟัน earache, asthma
นอกจากนี้กากของเมล็ดกากที่เหลือจากการทำน้ำมัน
สามารถนำมาใช้ในการกรอง หรือทำน้ำให้บริสุทธิ์เป็นน้ำดื่มได้
กากของเมล็ดมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นอย่างยิ่ง
และยังสามารถนำมาทำปุ๋ยต่อได้อีกด้วย
สำหรับคุณค่าของมะรุม เราจะแบ่งออกเป็น
2 ประเภทคือ คุณค่าทางโภชนาการ
และคุณค่าทางอาหาร ซึ่งสาเหตุที่ต้องแบ่งออกเป็นสองประเภทเนื่องจาก
การแบ่งประเภททางอาหารเราจะนำคุณค่าทางอาหารของมะรุมมาเทียบกับคุณค่าทางอาหารของนมและผักผลไม้ชนิดอื่นที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ
คุณค่าทางอาหาร
- · วิตามินเอ(Vitamin A)ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตามากกว่าแครอตถึง 4 เท่า
- · วิตามินซี(Vitamin C)ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันโรคหวัด มากกว่าส้มถึง 7 เท่า
- · แคลเซียม(Calcium)ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟัน มากกว่านมสด 4 เท่า
- · โพแทสเซียม(Potassium)ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทมากกว่ากล้วยถึง 3 เท่า
- · โปรตีน(Protein) ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย มากกว่าโยเกิร์ต 2 เท่า
- · นอกจากนี้น้ำมันสกัดจากเมล็ดมะรุมมีองค์ประกอบคล้ายน้ำมันมะกอกดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
คุณประโยชน์ทางด้านอื่นๆนั้นก็มีอีกมากมาย
ดังนี้
- · ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง 10 ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอดได้เป็นอย่างดี
- · ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้
- · รักษาโรคความดันโลหิตสูง
- · ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์ เด็กที่เกิดมาจะไม่ติดเชื้อ HIV นอกจากนี้ถ้ารับประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้งยังช่วยให้คนทั่วๆไปสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง
- · ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะ ควบคุมได้[ต้องการอ้างอิง]
- · ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็ง แต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้ ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบัน
- · หากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการรักษาด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีร่างกายที่แข็งแรง
- · ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคเกาต์ โรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม
- · รักษาโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้น หากรับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์
- · รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง ท้องเสีย ท้องผูก โรคพยาธิในลำไส้
- · รักษาปอดให้แข็งแรง รักษาโรคทางเดินของลมหายใจ และโรคปอดอักเสบ
- · เป็นยาปฏิชีวนะ
มะรุมแคปซูล กับความจริงอีกอย่างหนึ่งก็คือ
มะรุมไม่ได้ปลอดภัยไปเสียทีเดียว เพราะในตัวของมะรุมเองนั้นก็มีพิษเหมือนกัน
เนื่องจากมะรุมเป็นพืชในเขตร้อน
สำหรับหญิงตั้งครรภ์หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจจะทำให้แท้งบุตรได้
และยังรวมไปถึงผู้ป่วยโรคเลือดก็ไม่ควรรับประทานมะรุมเช่นกัน
เพราะจะทำให้เม็ดเลือดแตกง่าย
นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป
เพราะมะรุมมีโปรตีนที่ค่อนข้างสูงมาก แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ความว่ามันจะไม่ปลอดภัย
เพราะคนไทยนิยมนำมาประกอบอาหารมานานมากแล้ว ซึ่งสำหรับผู้ที่คิดจะดูแลสุขภาพด้วยการหันไปซื้อมะรุมสกัดแคปซูลมารับประทานนั้น
ก็ควรจะต้องระมัดระวังและควรเลือกซื้อมะรุมแคปซูลที่มี อย. ด้วย มะรุมแคปซูลซื้อได้ที่ไหน
มะรุม
ในส่วนของใบมะรุมควรรับประทานใบสด ๆ ที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป
และไม่ควรถูกความร้อนนานเกินไป เพื่อให้ได้ประโยชน์ของสารอาหารอย่างเต็มที่
ซึ่งการใช้ใบมาประกอบอาหารสิ่งที่ต้องระวังก็คือ
ไม่ควรให้เด็กทารกในวัยเจริญเติบโตถึง 2 ขวบรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป
เพราะใบมะรุมมีธาตุเหล็กสูง หรือเด็กที่อายุ 3-4 ขวบควรรับประทานแต่เพียงเล็กน้อย
และไม่ว่าจะวัยไหนก็ตามไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเกินไป
เพราะอาจจะทำให้ท้องเสียได้ (ไม่ได้เกิดกับทุกคน)
ควรเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย
เวปไซต์ thaiherbweb.com
Line ID @THAIHERBWEB
เบอร์โทร 0973199029, 0805842717, 021387031, 0863515214
EMAIL thaiherbweb@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น