ฟ้าทะลายโจร
สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ
สมุนไพรมีบทบาทเกี่ยวกับการป้องกันการเกิดโรคพร้อมกับชะลอความเสื่อมของร่างกาย
คือ การต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของ การเกิดโรค พร้อมด้วยความเสื่อมของร่างกาย
แนวทางการป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง คือ การเสริมสร้างภูมิต้านทาน
การรั้งรอความแก่ของเซลล์ต่างๆ
การเพิ่มการไหลเวียนเลือดพร้อมทั้งรักษาหลอดเลือดแข็งตัวรวมทั้งเสริมการทำงานอย่างเป็นระบบของอวัยวะทุกส่วน
ซึ่ง สมุนไพรที่มีบทบาทดังกล่าว ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง เป็นต้น
ฟ้าทะลายโจร
ชื่อวิทยาศาสตร์ Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall.Ex Nees สมุนไพรฟ้าทะลายโจรได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ
ในการกระตุ้นภูมิต้านทานในร่างกายและจิตใจ
และได้ถูกบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติของประเทศไทย ใช้บรรเทาอาการของโรคหวัด (Commom
cold) เช่นเจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ น้ำมูกไหล
พร้อมทั้งบรรเทาอาการท้องเสียไม่ติดเชื้อ
ฟ้าทลายโจร
มีการใช้เพื่อจะการบำรุงหวัดมาอย่างยาวนานในประเทศจีน และมีรายงานการวิจัยว่า
ฟ้าทะลายโจรช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ทั้งแบบการสร้างแอนติบอดี เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอดมี่เข้ามาในร่างกายและกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมก
โครฟาจให้จับกินเชื้อโรคได้ดีขึ้น
กลไกการออกฤทธิ์ของสาระสำคัญในฟ้าทะลายโจรต่อร่างกายมี 3 กลไก คือ
· มีฤทธิ์ลดไข้ ต้านการอักเสบ
พร้อมด้วยลดอาการจากหวัด
· มีฤทธิ์ลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส พร้อมทั้งทำให้ความสามารถของเชื้อไวรัสในการเกาะติดกับผนังเซลล์ลดลง
จึงทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ยากขึ้น
· มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ทำให้ร่างกายและจิตใจสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น
อีกทั้งยังมีความปลอดภัยในการกินระยะยาว
พร้อมทั้งมีการรับรองฟ้าทะลายโจรรักษาหวัดจากองค์การอนามัยโลกอีกด้วย
ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรในสตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร
เนื่องจากว่ามีการศึกษาพบว่า น้ำต้มฟ้าทะลายโจรมีผลทำให้หนูทดลองแท้งได้
ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรบรรเทาอาการไข้หรือเจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
Steptococcus group A ซึ่งมีอาการรุนแรง
และการติดเชื้อแบคทีเรียกกลุ่มนี้คงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น ไข้รูมาติก
โรคหัวใจรูมาติกและไตอักเสบ
ดังนั้น
เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคควรกินฟ้าทะลายโจรตามคำแนะนำดังนี้
· การใช้เพราะ
บรรเทากิริยาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
คืออุจจาระไม่เป็นมูกหรือมีเลือดปน ให้กินครั้งละ 500 มิลลิกรัม ถึง 2 กรัม วันละ
4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
· การใช้เพื่อ บรรเทาอาการของโรคหวัด (common
cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ให้กินครั้งละ 1.5-3 กรัม
วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารพร้อมทั้งก่อนนอน
“ฟ้าทะลายโจร”
สมุนไพรที่มีประวัติการใช้มาอย่างยาวนาน
และเป็นสมุนไพรที่มีจำนวนการศึกษาวิจัยมากที่สุดชนิดหนึ่งในระดับนานาชาติ
ประเทศที่มีการแพทย์ดั้งเดิมที่มีรากฐานมั่นคงอย่างอินเดียและจีน
ก็มีประวัติการใช้ฟ้าทะลายโจรมานับพันปี โดยจีนได้ค้นพบสาระสำคัญในฟ้าทะลายโจร
มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2436
วงการแพทย์จีนได้จัดฟ้าทะลายโจรเป็นยาตำราหลวงที่มีสรรพคุณเด่นมากตัวหนึ่ง
สามารถใช้เป็นยาเดี่ยวได้ครอบคลุมหลายสรรพคุณ เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ หวัด ปวดท้อง
ท้องเสีย
สำหรับการใช้ฟ้าทะลายโจรในประเทศไทยนั้น
จำกัดอยู่ในหมู่หมอพื้นบ้านในบางพื้นที่ โดยมีการใช้ในสรรพคุณเดียวกันกับจีน
พร้อมกับเริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายในสังคมไทยมากขึ้น เมื่อราว พ.ศ.2528
ในเวลาต่อมาได้มีการศึกษาวิจัยการใช้ฟ้าทะลายโจรในการลดอาการเจ็บคอ ท้องเสีย
ในระดับนานาชาติ ซึ่งการวิจัยฟ้าทะลายโจร ในคน นับเป็นการค้นคว้าที่มีคุณภาพสูง
จากการค้นคว้าดังกล่าวข้างต้นพบว่า ฟ้าทะลายโจร สามารถลดอาการปวดหัว อ่อนเพลีย
ครั่นเนื้อครั่นตัว นอนไม่หลับ เจ็บคอ น้ำมูกไหล อาการไอ จาม
พร้อมด้วยทำให้หายจากหวัดได้เร็วขึ้นลดระยะเวลาการขาดงานโดยมีกลไกการออกฤทธิ์ที่สำคัญ
คือ การเพิ่มภูมิคุ้มกัน การลดการอักเสบ ทำให้ไวรัสเข้าเซลล์ได้ลดลง
ฟ้าทะลายโจรจึงเป็นสมุนไพรที่มีอรรถประโยชน์ในการบรรเทาหวัดมาก
เนื่องจากหวัดเป็นโรคที่ไม่มียาแผนปัจจุบันรักษา ต้องพึ่งภูมิต้านทานในตัวคน
นอกจากนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยายังพบว่า ฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูง
ป้องกันหัวใจ ต้านมะเร็ง โดยเหตุนั้น
ฟ้าทะลายโจรยังมีแนวโน้มที่ดีในการพัฒนาเป็นยาต้านมะเร็งที่กำลังเป็นสาธารณะสุขที่สำคัญของโลก
ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง
มีการศึกษาด้านพิษวิทยาทั้งระยะเฉียบพลัน พิษกึ่งเรื้อรัง และพิษเรื้อรัง
พบว่ามีความปลอดภัย จึงอนุญาตให้มีการค้นคว้าวิจัยในเด็กอายุระหว่าง 4-11 ขวบ
อีกด้วย นอกจากนี้ ฟ้าทะลายโจรยังเป็นสมุนไพรที่องค์การอนามัยโลกให้การยอมรับ
และได้มีผลิตภัณฑ์ ฟ้าทะลายโจรจำหน่ายในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย
ในรูปแบบผลิตภัณฑ์อนามัยในการป้องกัน และรักษาหวัด
ประเทศไทยได้บรรจุให้ฟ้าทะลายโจรอยู่ในปัญชียาหลักตั้งแต่
พ.ศ.2542 ขนาดที่แนะนำให้กินคืน วันละ 3-6 กรัม แบ่งให้วันละ 4 ครั้ง
หลังอาหารและก่อนนอน เพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ และกินวันละ 1.5-3 กรัม แบ่งให้วันละ
4 ครั้งหลังอาหารและก่อนนอน เพื่อบรรเทาอาการหวัด
ถึงฟ้าทะลายโจรจะมีความปลอดภัยสุงในขนาดที่แนะนำให้ใช้แต่ก็ห้ามใช้ในคนท้อง
พร้อมกับ ห้ามใช้ในคนที่แพ้สมุนไพรตระกูล Acanthaceae ซึ่งการแพ้นี้พบชนิดที่มีการแพ้ที่รุนแรงด้วย
ซึ่งการแพ้แบบรุนแรงดังกล่าวแม้ว่าจะพบได้น้อยก็ตาม
แต่ก็สามารถเกิดได้ทั้งจากยา วัคซีน และสารเคมี เช่นยาในกลุ่มเพนิซิลลิน
จากอาหารจำพวกไข่ นม แป้งสาลี นมถั่วเหลือง อาหารทะเล เป็นต้น
การติดคำเตือนว่าผลิตภัณฑ์นั้นทำให้แพ้แบบรุนแรงได้นั้น จึงเป็นสิ่งที่ดี
กับควรทำในทุกผลิตภัณฑ์ ทั้งยาแผนปัจจุบัน ยาจากสมุนไพร อาหารสำเร็จรูปต่างๆ
ไม่ใช่เฉพาะฟ้าทะลายโจรเพียงอย่างเดียว
เหตุว่าจะทำให้ประเทศชาติเสียโอกาสใช้สมุนไพรที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง
ที่สามารถปลูกเองใช้เองได้มีความปลอดภัยสูง
มีงานวิจัยรองรับและสามารถเป็นที่พึ่งด้านสุขภาพอนามัยให้กับประชาชนและประเทศ
ในยามที่ประเทศกำลังถกเถียงเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของคนในประเทศ
การดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ
แต่การป้องกัน คือการรักษาที่ดีที่สุดค่ะ
เวปไซต์ thaiherbweb.com
Line ID>> @THAIHERBWEB
เพสบุุ๊ค>> https://www.facebook.com/ ThaiHerbClub/
เบอร์โทร 0973199029, 0805842717, 021387031, 0863515214
EMAIL>> thaiherbweb@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น