คงจะรู้กันมาบ้างแล้วว่าการล้างสารพิษที่หมักหมมในตัวออกไป จะทำให้ร่างกายแข็งแรง เลือดลมเดินสะดวก ถ้าทำเป็นประจำ ก็จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพและรักษาโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หอบหืด เบาหวาน รวมทั้งลดความอ้วนได้ด้วย สมุนไพรล้างพิษซื้อได้ที่ไหน แล้ว สมุนไพรล้างพิษได้จริงหรือ??
ที่มาของสารพิษในร่างกาย
สารพิษหรือท็อกซินนี้ เป็นคำรวมที่ใช้เรียกสารพิษทุกชนิดที่เมื่อสะสมในร่างกายแล้วจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพ ซึ่งมีท็อกซินทั้งที่เกิดขึ้นเองภายในร่างกายและท็อกซิน จากภายนอก เช่น เซลล์ที่ตายทุกวัน ของเสียที่เกิดจากกระบวนการย่อยและเผาผลาญอาหารหรือกระบวนการชีวเคมีอื่นๆ ของเสียที่เกิดจากการสะสมของกากอาหาร ของเสียที่เกิดจากอาหารไม่ย่อย เกิดการหมักหมมและบูดเน่าในลำไส้ ฝุ่นควันในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษสารพิษที่ปนเปื้อนมากับอาหาร ฯลฯ สารพิษต่างๆ เหล่านี้ ปกติร่างกายดำเนินการกำจัดหรือถ่ายเทมันออกตามธรรมชาติอยู่แล้วโดยอวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดของเสียเหล่านี้คือตับ ท่อน้ำดี ไต ผิวหนัง และปอด ในรูปของอุจจาระ ปัสสาวะ เหงื่อไคล และลมหายใจแต่เมื่อเกิดกรณีใดๆ ก็ตามที่อวัยวะเหล่านี้ไม่สามารถขับสารพิษออกไปได้เร็วพอๆ กับที่ถูกสร้างขึ้น ก็จะเกิดการสะสมของสารพิษในร่างกายซึ่งหากสะสมไว้จนถึงระดับหนึ่ง ก็จะมีผลให้ร่างกายเกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นได้
วิธีช่วยให้ร่างกายแคล้วคลาดจากสารพิษทำได้ 2 ทาง คือ ป้องกันพิษภัยจากภายนอกและควบคุมปัจจัยที่จะก่อให้เกิดสารพิษภายในร่างกาย ตามวิธีการต่างๆ เหล่านี้
1. กิน ล้างพิษ หมั่นรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้นจนเป็นนิสัย เพราะเมื่อย่อย เส้นใยจะกลายเป็นกากอาหาร ทำหน้าที่คล้ายไม้กวาด ทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ และกระตุ้นให้ร่างกายขับถ่าย เป็นกิจวัตร พร้อมกันนี้ให้ดื่มน้ำสะอาดให้มากวันละ 2 – 8 แก้ว เพื่อป้องกันกากอาหารแข็งตัวการรับประทานผักและผลไม้นี้ ควรเลือกชนิดที่ปลอดภัยจากสารพิษหรือล้างจนแน่ใจ
2. อด ล้างพิษ ผลดีของการอดอาหารอยู่ที่ตับและลำไส้ได้พักผ่อน โดยเฉพาะตับซึ่งทำหน้าที่หนักมากทั้งย่อย กรอง และกำจัดสารพิษในอาหาร แต่เนื่องจากระหว่างอดอาหารในลำไส้จะไม่มีกากอาหาร ทำให้ถ่ายไม่ออก หากไม่สวนล้างลำไส้ใหญ่ร่วมด้วย ของเสียจะหนีไปออกทางไต ทำให้ไตต้องพลอยเสียหายไปด้วยได้
3. การสวนล้างลำไส้ใหญ่ ช่วยระบายท็อกซินออกจากร่างกายได้มากที่สุด โดยเฉพาะท็อกซินในระบบทางเดินอาหาร วิธีการนี้ทำได้โดยการสวนน้ำกาแฟผ่านเข้าทางทวารหนัก
4. ขับพิษทางเหงื่อ การอบตัวด้วยความร้อนและซาวน่าจะกระตุ้นให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีทั่วร่างกาย ไขมันใต้ผิวหนังลดลงการที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น กระบวน-การย่อยและเผาผลาญก็ทำงานดีขึ้น ทำให้ระบบประสาทและต่อมไร้ท่อทั้งหลายถูกกระตุ้น ส่งผลให้เหงื่อออกมาก ซึ่งเท่ากับว่าการขับถ่ายของเสียผ่านเหงื่อก็ถูกกระตุ้นให้ได้ทำงานมากกว่าปกตินั่นเอง
5. ขับพิษทางลมหายใจ การฝึกสูดลมหายใจเข้า – ออกให้เต็มที่คราวละ 5 นาที วันละ 2 ครั้ง ในสถานที่อากาศบริสุทธิ์ จะช่วยให้ขับของเสียออกทางลมหายใจได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การออกกำลังกายทุกวิธีก็ช่วยให้หายใจได้ลึกและมีคุณภาพดีเช่นกัน
6. ขับพิษในอารมณ์ การนั่งสมาธิสักวันละ 15 นาที หรือการหาวิธีผ่อนคลายอารมณ์ด้วยวิธีการต่างๆ ก็จะช่วยขจัดพิษภัยจากความตึงเครียดนี้ได้
ผลไม้บางชนิดนั้น นอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณและคุณประโยชน์ดีๆ แฝงอยู่มากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่ดีกับร่างกายและสุขภาพของเรามาก แม้อาหารจะมีทั้งคุณและโทษ การรับประทานอาหารไม่สมดุลกับความต้องการของร่างกาย รับประทานไม่ถูกวิธี หรืออาหารที่รับประทานปนเปื้อนสารพิษ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย แพ้อาหาร ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้น สารพิษสะสมยังเป็นตัวการให้เกิดโรคร้าย เช่น โรคมะเร็ง
ทางที่ดีควรหันมาใส่ใจดูแลอาหารการกินในชีวิตประจำวันตั้งแต่วันนี้กันดีกว่า การกินสมุนไพรล้างพิษ ผลไม้ที่มีคุณสมบัติช่วยล้างพิษก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลรักษาสุขภาพ
- ส้มโอ หรือ เกรปฟรุต เพราะเป็นผลไม้รสชาติดีจึงได้รับความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้เพกตินยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อ ร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพราะอาหารและมะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- กระเทียม จากหลายการศึกษาให้ผลตรงกันถึงคุณสมบัติของกระเทียมในการทำความสะอาดร่างกาย นั่นคือ การกินกระเทียมเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับและฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อไวรัส โดยเฉพาะทำความสะอาดเลือดและระบบลำไส้ ทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นและลดแรงดันโลหิต นอกจากนี้ยังต่อต้านการเกิดมะเร็งและทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น แต่ก็ควรระวังเรื่องการกินกระเทียมมากเกินไป ซึ่งก่อให้เกิดลมหายใจที่มีกลิ่นกระเทียมไปด้วย
-
รางจืด และแล้วก็มาถึงพืชสมุนไพรล้างสารพิษชนิดสุดท้าย นั่นก็คือรางจืดนั่นเองรางจืดครับ รางจืดมีคุณสมบัติที่โดเด่นมากในการทำลายพิษยาฆ่าแมลง พิษจากสตริกนิน พิษจากสารเคมีและยาเบื่อชนิดต่างๆ นับว่าเป้นพืชที่อยู่ในกระแสความนิยม จนมีผู้นำไปสกัดเป็นยาสมุนไพร หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพต่างๆเป็นจำนวนมาก ลองดูข้อมูลของรางจืดเพิ่มเติมที่บทความนี้นะครับ “รางจืด สมุนไพรไทยขับสารพิษ” ชารางจืด สามรถกำจัดพิษ และล้างสารพิษ ทำจากใบรางจืดอบแห้งมีกลิ่นใบไม้แห้ง หอมอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ ให้น้ำชาสีน้ำตาลออกเขียว มีสรรพคุณกำจัดพิษ แก้เมาค้าง บรรเทาอาการผื่นแพ้ และลดความร้อนในร่างกาย เหมาะกับเมืองไทยในขณะนี้ ที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ชารางจืดไม่มีพิษดื่มเป็นประจำได้ทุกวัน
- ย่านาง นั้นมีรสจืด และเป็นยาเย็น สรรพคุณในการดับพิษร้อน ย่านางนั้นมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ใบย่านาง มีสรรพคุณล้างพิษ แก้พิษเบื่อเมา แก้กินอาหารผิดสำแดง และยังสามารถรักษาอาการติดเชื้อ อักเสบ แก้ผื่นคัน ดับพิษร้อน สามารถทำเป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ
- ตรีผลา ตามตำราแพทย์ไทยมีฤทธิ์ ต้านอนุมูลอิสระ ผลิตจากสมุนไพรล้วน มีส่วนผสมของ ลูกสมอไทย ลูกสมอพิเภก มะขามป้อม ท่านสามารถทานอย่างมั่นใจว่าเราให้ท่านได้สารสมุนไพรดีทอกซ์ ล้างพิษ ไม่ใช่ยาระบายที่ทำให้เกิดพิษในลำไส้มากกว่าที่จะล้างพิษ ดังนั้นท่านจะได้ทานสมุนไพรล้างพิษจริงๆ ไม่ใช่ยาระบายและไม่ใช่สมุนไพรเพื่อลดน้ำหนักเป็นหลัก เพียงแต่มีผลด้านลดนำหนักและล้างพิษ สมอไทย มีสรรพคุณในการกำขัดสารพิษในร่างกาย ถอนพิษตกค้างและยังแก้อาการจุกเสียแน่นท้อง เป็นยาระบายอ่อนๆ
เหล่านี้เป็นตัวอย่างสมุนไพรที่สามารถใช้ขับพิษ ซึ่งเราจ้องเผชิญอยู่เป็นประจำ ควรเลือกรับประทานอยู่เสมอ เพื่อให้ร่างกายของเรามีสุขภาพที่แข็งแรงไม่สะสมสารพิษร้ายเอาไว้ในร่างกาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น