บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สมุนไพรบำรุงไต โรคไตห้ามทานอะไร โรคไต ฟอกไต อาการ การรักษา

สมุนไพรบำรุงไต

อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกายเรานั้น ต่างมีความสำคัญและมีการทำงานแตกต่างกันไปตามหน้าที่ของตัวเอง และหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญและทำงานหนักมากพอสมควรนั่นก็คือ อวัยวะที่เรียกว่า ไต นั่นเองค่ะ ไตของเรามีหน้าที่กรองของเสีย และสารเคมีออกจากร่างกายของเรา พร้อมช่วยปรับสมดุลของน้ำและเกลือแร่ของเราให้เป็นปกติ และในระหว่างวันของคนในยุคนี้จะเห็นได้ชัดค่ะว่า…เราก็ต่างกินข้าวที่เต็มไปด้วยโซเดียมที่มีปริมาณสูง และแน่นอนว่า ข้าวปลาอาหารที่อร่อยๆ มีให้เราได้เลือกบริโภคมากมาย แต่ไม่มีค่ารวมถึงบางอย่างก็ไม่ดีต่ออนามัย ซึ่งอาจทำลายสุขภาพไตของเราให้เสื่อมลงไปทุกวันๆ ได้นั่นเองค่ะหากรู้อย่างนี้แล้ว เราก็ควรที่จะถนอม และบำรุงไตของเราให้ดีๆ เพื่อให้ไตของเรานั้นทำงานได้อย่างมีอำนาจอย่างสมบูรณ์แบบไปนานๆ นั่นเองถึงแม้ว่าวันนี้ เรายังสนุกกับการทานอาหารของกินอร่อยๆ ตามใจปากได้อยู่นั้นก็แสดงว่า ไตของเรายังไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่เมื่อมีสารไม่ดีสะสมเป็นเวลานานก็เป็นไปได้ว่า ไตของเรานั้นจะเสื่อมถอยลงได้ในที่สุดค่ะ ร่างกายก็ไม่ต่างจากเครื่องจักร หากใช้งานหนักโดยไม่ได้รับการป้องกันเป็นเวลานาน ก็สามารถที่จะพังแล้ว ต้องมาซ่อมแซมรักษากันในภายหลัง ซึ่งก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีสมรรถนะอีกต่อไป  ซึ่งหลายคนก็คงอยากจะทราบแล้วใช่ไหมละค่ะว่า อาหารการกินที่เรากินในชีวิตประจำวันนั้น จะมีอะไรบ้างที่สามารถช่วย บำรุงไต ของเราได้ พร้อมทั้งสมุนไพรปกป้องรักษาโรคไตไม่มี แต่สามารถช่วยคุ้มครอง บรรเทา ทำให้เราหลีกเลี่ยงจากโรคไต และ การฟอกไต ได้ค่ะ  ซึ่งหลายคนก็คงอยากจะทราบแล้วใช่ไหมละค่ะว่า  จะมีอะไรบ้างที่สามารถช่วย บำรุงไต และ โรคไตห้ามทานอะไร


  1. อาการปัสสาวะผิดปกติ เนื่องจากไตกับกระเพาะปัสสาวะทำงานสัมพันธ์กัน เมื่อไตเกิดผิดปกติจึงส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะผิดปกติไปด้วย อาการผิดปกติของปัสสาวะมีดั้งนี้ ปัสสาวะขัด ปัสสาวะลำบาก เจ็บ ต้องออกแรงแบ่ง ปัสสาวะไม่พุ่ง ปัสสาวะสะดุดกลางคัน ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ปัสสาวะเป็นฟองมาก ปัสสาวะเป็นเลือด
  2. อาการบวม ผู้ป่วยโรคไตส่วนมากมีท่าทางบวมตามที่ต่างๆ ของตัว เช่น บวมรอบดวงตาด้วยกันที่บริเวณใบหน้า บวมที่เท้า หากใช้นิ้วกดไปตรงบริเวณที่บวมแล้วมีรอยบุ๋มลงไปให้คะเนไว้เลยว่าเป็นโรคไต
  3. อาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง เอว กระดูกและข้อ โดยจะมีประเภทการปวดคือ รู้สึกปวดที่บั้นเอวหรือบริเวณชายโครงด้านหลังพร้อมด้วยมักปวดร้าวไปถึงท้องน้อย ขาอ่อน หัวหน่าว พร้อมทั้งที่อวัยวะเพศ
  4. ความดันโลหิตสูง เป็นอาการสำคัญที่บอกให้รู้ว่าคุณมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตเรื้อรัง ยิ่งผู้ป่วยเป็นความดันโลหิตสูงมานานพร้อมทั้งไม่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในภาวะที่สมดุล ยิ่งมีความเสี่ยงมากกว่าปกติโดยอาจจะเป็นโรคไตเรื้อรังกับโรคหลอดเลือดแดงในไตตีบ



อาจแบ่งได้เป็น 4 วิธีหลักๆ ด้วยกัน คือ

  1. การตรวจค้นหาและการลงความเห็นโรคไตที่เหมาะสม การตรวจค้นหา หรือวินิจฉัยโรค ที่ถูกต้องได้ในระยะต้นๆ ของโรค ย่อมมีโอกาสได้รับผลการบำรุงดีกว่าการเข้าวินิจฉัยล่าช้า
  2. การเยียวยารักษาที่สาเหตุของโรคไต เช่น การรักษานิ่วไต การหยุดยาซึ่งเป็นพิษต่อไต การควบคุมโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ให้ดีอย่างสม่ำเสมอ การใช้ยาที่เหมาะสม กับโรคเนื้อไตอักเสบแต่ละชนิด เป็นต้น
  3. การรักษาเพื่อชะลอความเสื่อมของไต แม้แพทย์จะปกปักรักษาสาเหตุของโรคไตแล้วแต่ผู้ป่วยจำนวนมากอาจมีการทำงานของไตที่เสื่อมลงกว่าปกติ เพราะเนื้อไตบางส่วนถูกทำลายไปไตส่วนที่ดีซึ่งเหลืออยู่จะต้องทำงานหนักขึ้นทำให้ไตเสื่อมการทำงานมากขึ้นตามระยะเวลาและมักเกิดไตวายในที่สุด ดังนั้นการชะลอการเสื่อมของไต อันได้แก่ การควบคุมข้าวปลาอาหารให้เหมาะ กับการทำงานของไตที่เหลืออยู่ การใช้ยาเพื่อช่วยปรับสารต่างๆ ที่เป็นพิษต่อไต การควบคุมความดันโลหิตให้ดี เป็นต้น
  4. ยาที่มีผลชลอไตเสื่อมได้แก่ ยากลุ่ม ACEI Inhibitors(Angiotensin Converting Enzyme Inhibitors) ซึ่งได้แก่ยา Enalapril Captopril Lisinopril และramipril


การบำบัดทดแทนการทำงานของไต (การล้างไตและการผ่าตัดปลูกถ่ายไต) เมื่อไตวายมากขึ้นจนเข้าระยะสุดท้าย ผู้ป่วยจะได้รับการบำบัดด้วยการล้างไตหรือไม่ก็การผ่าตัดปลูกถ่ายไต

อาหาร สมุนไพรบำรุงไตให้แข็งแรง

ข้าวปลาอาหาร ไม่ก็สมุนไพรที่เราจะสามารถหาโภคได้ง่าย แถมมีผลประโยชน์มีคุณค่าในการบำรุงไตของเราให้แข็งแรงสมบูรณ์ กับดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างยาวนานนั้นก็มีมากมาย  เริ่มจาก อาหารประเภทที่มีสีดำเช่น เช่น ถั่วดำ เห็ดหอม งาดำ เห็ดหูหนูดำ พุทราจีน น้ำลำไย ฯลฯ และก็ยังมีสมุนไพร อย่างเช่น เห็ดหลินจือ กระชาย ลูกหม่อน ซังข้าวโพด ไหมข้าวโพด นมถั่วเหลือง หญ้าหนวดแมว ใบข่อย กระเทียมสด กะหล่ำปลี เม็ดบัว แป๊ะก๋วย เป็นต้น
  


งาดำ มีฤทธิ์กลางๆ หรือภาษาหมอไทยเรียกมีฤทธิ์สุขุม รสหวาน เหมาะสำหรับบำรุงตับ ชำระตับบำรุงสายตา เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี ช่วยบำรุงไตให้แข็งแรง สุขภาพดี นอกจากนี้ยังช่วยให้ดวงตาแจ่มใส มองชัดเจนยิ่งขึ้น       งาบดต้มกับน้ำ  ดื่มบำรุงร่างกาย ช่วยขับเลือดลม ขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดลมเดินทางสะดวก ช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นเลือด ลดการดูดซึมน้ำตาล ขับไอเย็นออกจากร่างกาย ทำให้อวัยวะต่างๆทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ   ผู้ป่วยโรคไตควรดื่มงาบ่อยๆ จะช่วยลดภาระการทำงานของไต เพราะช่วยขับเลือดเสีย ตลอดจนขับพิษที่อยู่ในเลือด เป็นการทำความสะอาดเลือดเบื้องต้น ทำให้ไตทำงานน้อยลง ส่งผลให้ไตของผู้ป่วยชะลอการเสื่อมได้ยิ่งดี
     
เห็ดหลินจือ มีคุณค่าสูงมากในทางสมุนไพร ทั้งในศาสตร์ของแพทย์ แผนจีนและแผนไทย ซึ่งคัมภีร์โบราณ “เซนหลุง” (Shen Lung's Medica) และ คัมภีร์ “เสินหนงเปินเฉา” ที่เป็นตำราเก่าแก่ที่สุดของจีนเขียนไว้ว่า เห็ดหลินจือ เป็น “เทพเจ้าแห่งชีวิต” (Spiritual essence) และยกย่องให้เห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรที่ดีที่สุด เห็ดหลินจือเป็นที่คาดหวังกันไว้ว่าจะสามารถบรรเทาหรือรักษาโรคไตเรื้อรังได้ อาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ ได้นำสรรพคุณของเห็ดหลินจือมาทดลองรักษาผู้ป่วยโรคไต ปรากฏว่าช่วยลดปริมาณไข่ขาวในปัสสาวะได้ และช่วยชะลออาการไตเสื่อมได้ดี   
       ปัญหาของผู้ป่วยโรคไตคือจะมีสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบอยู่ในเลือดสูงในขณะที่สารต้านการอักเสบจะลดต่ำลง จากการศึกษาพบว่าเห็ดหลินจือ ช่วยลดการอักเสบของเยื้อเยื่อในร่างกายได้   ในตำราแพทย์แผนไทยใช้เห็ดหลินจือเป็นยาขับปัสสาวะกันมานานมากแล้ว จะใช้ต้มกับน้ำทำเป็นยาหม้อดื่มเพื่อใช้ล้างพิษที่ตกค้างในไต ขับปัสสาวะ และ ใช้เป็นยาบำรุงไตขนานเอก



กระเทียมสด จะมีสารอัลลิซิน ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดี มีสรรพคุณในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อรา รวมทั้งป้องการโรคหัวใจโรคหลอดเลือด ลดความดันโลหิต ที่สำคัญยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคไต และการอักเสบต่างๆ


อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น ผลไม้แห้งทุกชนิด ทุเรียน มะขาม แคนตาลูป น้ำลูกยอ มะเขือเทศ ผักใบเขียว หัวผักกาด กล้วย ส้ม มะละกอ ขนุน เป็นต้น
ฟอสฟอรัส เมื่อไตวาย ร่างกายจะมีปัญหาการดูดซึมแคลเซียม และการกำจัดฟอสฟอรัสจะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมน้อยและมีฟอสฟอรัสในเลือดมากเกินไป
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ รำข้าว เนยแข็ง นมและผลิตภัณฑ์จากนม นมข้นหวาน ไข่ปลา ไข่แดง กุ้ง ปู ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ผงฟู ถั่วเมล็ดแห้ง น้ำอัดลมสีดำ เป็นต้น
โปรตีน เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ ผู้ป่วยโรคไตก็ยังต้องรับประทานของกินที่ให้โปรตีน แต่ควรจำกัดปริมาณอาหารที่มีโปรตีนสูงทั้งจากพืชและเนื้อสัตว์ไม่ให้มากเกินไป เพื่อเป็นการลดการทำงานของไต

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ เนื้อสัตว์ที่มีไขมันพร้อมกับคอเลสเตอรอลมาก (เช่น ไข่แดง เครื่องในสัตว์ หนังหมู หนังเป็ดพร้อมด้วยไก่ เนื้อหมูและเนื้อวัวติดมัน ซี่โครงหมูที่ติดมันมาก หมูหัน เป็ดปักกิ่ง หมูสามชั้น หมูกรอบ เป็ดย่าง ห่านพะโล้ ไข่ปลา ไข่กุ้ง) เนื้อสัตว์ที่มีกรดอะมิโนจำเป็นไม่ครบ ซึ่งทำให้ไตดำเนินงานขับถ่ายของเสียหนักขึ้น (เช่น เอ็นหมู เอ็นวัว เอ็นไก่ หูฉลาม ตีนเป็ด ตีนไก่ หนังสัตว์ กระดูกอ่อน รวมทั้งถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ และขนม ข้าวปลาอาหารที่มีไส้ถั่ว)


ซึ่งของกินพร้อมกับสมุนไพรกลุ่มนี้ สามารถช่วยทำนุบำรุงไตให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยบำรุงรักษา พร้อมกับป้องกันอาการไตวาย พร้อมทั้งไตอักเสบได้ช่วยรักษาสมดุลของร่างกายในส่วนต่างๆ ได้ กับอีกมากมายคุณประโยชน์ที่ร่ายกายจะได้รับอย่างแน่นอนส่วนการป้องกันไม่ให้เป็นโรคไตนั้น ก็สามารถทำได้ไม่ยากค่ะ เพียงแค่เราเลือกบริโภคข้าวปลาอาหาร ผักผลไม้ ที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายไม่ควรกินอาการที่มีสารปนเปื้อน ไม่ก็รสจัดจนเกินไป โดยเฉพาะรสเค็มจัด เพื่อการกินโซเดียมในปริมาณที่สูงนั้น ส่งผลให้ไตทำงานหนักได้เช่นกันค่ะต่อจากนั้นอย่าลืมที่จะหมั่นออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้สุขภาพอนามัยร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคมีภัยนะคะและควรเลือกทาน ผักผลไม้ อาหาร หรือสมุนไพรที่บำรุงไตให้แข็งแรง เพราะอนามัยที่ดี ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด้วยค่ะ

เวปไซต์ thaiherbweb.com
Line ID  @THAIHERBWEB 
เพสบุุ๊ค  https://www.facebook.com/ThaiHerbClub/
เบอร์โทร 0973199029, 0805842717, 021387031, 0863515214

ไม่มีความคิดเห็น: