ความน่ากลัวที่ซ้อนความน่ากลัวก็คือ
ยาเหล่านี้มีโอกาสตกค้างในร่างกายได้ แม้ว่าเราหยุดทาน
ไปแล้ว ผลข้างเคียงต่อระบบประสาท หัวใจ ตับ ไต ฯลฯ
ก็ยังคงอยู่ในร่างกายเรา แต่ยังไม่ถึงเวลาแสดง
อาการออกมาเท่านั้นเอง
หากวันหนึ่งสิ่งที่ตกค้างในร่างกายแสดงผลออกมา ถ้าโชคดีเราก็แค่เป็นโรคหัวใจ
โรคตับ มะเร็ง ฯลฯ แต่หากโชคร้ายก็อาจจะเกิดเรื่องเศร้าขึ้นกับเราได้
เหมือนข่าวที่เราเคยรับทราบมา เช่น
(ขอสงวนชื่อและนามสกุล)
- 16 ธันวาคม 2545 หญิงสาว อายุ 27 ปี เสียชีวิตที่จังหวัดอ่างทอง เพราะทานยาลดน้ำหนัก โดยทาน
ติดต่อกันนาน สุดท้ายหลังจากหยุดทานมาปีกว่าก็เสียชีวิต (จากข่าวสด 17 ธ.ค. 2545)
- 12 ธันวาคม 2548 หนุ่มหัวหน้าสถานีอนามัย อายุ 30 ปี ต้องการลดเพียง 6-7 กิโล ทานยาลดความ
อ้วนพร้อมเครื่องดื่มบำรุงกำลัง หัวใจวายตายที่จังหวัดราชบุรี (คมชัดลึก 13 ธ.ค. 2548)
- ธันวาคม 2548 หญิงสาว อายุ 26 ปี ทานยาลดความอ้วนที่จ่ายโดยคลินิกในห้างสรรพสินค้า
แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จนสูญเสียความทรงจำไปนานถึง 3 ปี (คมชัดลึก 18 ธ.ค. 2548)
- 20 สิงหาคม 2550 หญิงสาว อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพฯ ทานยาลดน้ำหนัก จนคลุ้มคลั่งขังลูกไว้ในรถ
เพราะประสาทหลอนว่าจะมีคนมาทำร้าย (คมชัดลึก 21 ส.ค. 2550)
ติดต่อกันนาน สุดท้ายหลังจากหยุดทานมาปีกว่าก็เสียชีวิต (จากข่าวสด 17 ธ.ค. 2545)
- 12 ธันวาคม 2548 หนุ่มหัวหน้าสถานีอนามัย อายุ 30 ปี ต้องการลดเพียง 6-7 กิโล ทานยาลดความ
อ้วนพร้อมเครื่องดื่มบำรุงกำลัง หัวใจวายตายที่จังหวัดราชบุรี (คมชัดลึก 13 ธ.ค. 2548)
- ธันวาคม 2548 หญิงสาว อายุ 26 ปี ทานยาลดความอ้วนที่จ่ายโดยคลินิกในห้างสรรพสินค้า
แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จนสูญเสียความทรงจำไปนานถึง 3 ปี (คมชัดลึก 18 ธ.ค. 2548)
- 20 สิงหาคม 2550 หญิงสาว อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพฯ ทานยาลดน้ำหนัก จนคลุ้มคลั่งขังลูกไว้ในรถ
เพราะประสาทหลอนว่าจะมีคนมาทำร้าย (คมชัดลึก 21 ส.ค. 2550)
และอีกมากมายทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว
สิ่งเหล่านี้พร้อมจะเกิดขึ้นกับทุกๆ คน โดยเฉพาะคนที่
คิดว่าไม่เป็นอะไร การที่คนอื่นทานแล้วเขาไม่เป็นไร
ไม่ได้แปลว่าเมื่อเราไปทานแล้วจะไม่เป็นอะไร เพราะ
ว่าร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน
คนที่ทานยาลดน้ำหนักจึงเหมือนใช้ชีวิตอยู่บนเส้นด้าย ไม่รู้หวยจะออก
ที่เราหรือเปล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น