บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559

ความจริงที่ควรอ่าน ของโสมเกาหลี แปะก๊วย หรือ โกจิเบอรี่

  1. โสมเกาหลี  

โสมเกาหลี แปะก๊วย <a href=โกจิเบอรี่ สมุนไพรสุขภาพ" width="560" height="672" />

ทำไมยาอายุวัฒนะถึงต้องราคาแพง ทำไมยาอายุวัฒนะถึงต้องหาซื้อยาก ก็ต้องมีที่มาที่ไปกันหละนะว่า ทำไม ซึ่งยาอายุวัฒนะที่พูดถึงนี่ก็คือ โสมเกาหลี นั่นเอง เรามาทำความรู้จักกับโสมทั้งให้ด้านสุขภาพ และ ด้านความงามกัน แต่ก่อนที่จะได้ถึงจุดนั้น เรามาทำความรู้จักกับการก่อกำเนิดของโสมแบบฉบับย่อกันก่อน

โดยทั่วไปแล้วถ้าเราพูดถึงโสม ทุกคนก็จะบอกเป็นคำเดียวว่า อ้อ #โสมเกาหลี คำตอบที่ถูกคือ ถูกต้องนะครับ แต่ทว่า ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ อันที่จริงแล้ว โสม มีถิ่นฐานหลักๆอยู่ทั้งหมด 3 แหล่งด้วยกัน คือ

เอเชียน จินเซ็ง : นั่นก็คือ #โสมเกาหลี ซึ่งก็ปลูกในประเทศเกาหลีและในประเทศจีน โดยค้นพบว่า โสมเอเชียของเรานี้เป็นโสมที่มีประโยชน์สูง และยังรวมไปถึงเป็นโสมที่มีคุณค่าทางอาหารสุงสุดอีกด้วย

อเมริกัน #จินเซ็ง : โสมอเมริกา มีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในแถบประเทศอเมริกา โดยยังพบว่า โสมอเมริกานี้มีคุณประโยชน์และคุณค่าทางอาหารรวมไปถึงประโยชน์ในด้านการรักษาด้วยกว่าโสมที่มีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในประเทศแถบเอเชีย

ไซบีเรียน จินเซ็ง : โสมไซบีเรีย ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ซึ่งมีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในไซบีเรีย โดยเมื่อเทียบด้านคุณประโยชน์และคุณค่าทางอาหารแล้ว โสมไซบีเรีย มีผลด้านการรักษาด้วยกว่า โสมสองแหล่งแรก

ในท้องตลาดกว่า 90% พบว่า ผลิตภัณฑ์จากโสม เป็นโสมที่มีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในประเทศจีน และ เกาหลี และยังพบอีกว่า กว่า 70% เป็นโสมที่มาจากประเทศเกาหลีทั้งสิ้น เพราะโสมจากเกาหลีได้รับขนานนามว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก

กว่าที่ชาวบ้านจะปลูกโสมให้พวกเราได้สรรหามาเ ป็นเจ้าของได้นั้นต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5-6 ปี นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมโสมถึงมีคุณค่าทางอาหารสูงสุด เพราะระยะเวลานานมากขนาดนี้จึงส่งผลให้ส่วนรากของโสมเก็บกักอาหารไว้ได้มาก #รากโสม จึงเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ และลักษณะของรากโสมนั้นมีรูปร่างคลับคล้ายคลับคลาไปทางรูปร่างของมนุษย์ มีหัว ตัว แขน ขา พร้อมสรรพ อีกทั้งเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวเรียบร้อยแล้ว ที่ดินที่ปลูกโสมก็ยังไม่สามารถนำไปเพาะปลูกพืชผลอะไรได้ ให้ดีที่สุดต้องปลูกถั่วเพื่อให้อาหารกับดิน เพราะดินบริเวณที่ปลูกโสมนั้น จะเป็นพื้นดินที่ไม่มีธาตุอาหารแต่อย่างใดแล้ว เพราะโสมเค้าพากันเก็บกักไว้ที่รากของเค้าจนหมด ด้วยเหตุผลนี้นี่เอง จึงส่งผลราคาโสมนั้นเรียกได้ว่า แพงมากมาย โดยโสมที่เรารู้จักกันนั้น แบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกันคือ

#โสมแดง : คือ เราขุดโสมมาแล้วเราตัดรากแก้ว รากฝอยออกให้หมด แล้วนำไปอบไอน้ำ คุณค่าทางอาหารของโสมประเภทนี้จึงอยู่ครบถ้วน จึงถูกจัดว่าเป็นโสมที่มีคุณประโยชน์สูงสุด

โสมขาว : กระบวนการถนอมรักษาเบื้องต้นเหมือนโสมแดง แต่เพิ่มเติมโดยการนำโสมไปแช่น้ำเชื่อมทั้งนี้เพื่อให้สามารถเก็บโสมไว้ได้นานขึ้น หรือ อีกนัยเพื่อให้สามารถเก็บนำไปทำเป็นอาหารหรือแปรรูปอื่นๆได้อีก การที่นำโสมไปผ่านกระบวนการมากขึ้นจึงเป็นลดคุณประโยชน์ของโสมลงโดยปริยาย ดังนั้นราคาโสมขาวจึงถูกกว่าโสมแดง

โสมแห้ง : เหมือนการทำผักตากแห้งบ้านเรา คือ นำโสมมาตัดรากฝอย แล้วนำไปตากแห้งก่อน แล้วค่อยอบ

โสมสกัด : ตัวนี้อาจเรียกได้ว่า เป็นการนำ ทุกส่วนของโสมมาแปรรูปด้วยการสกัดเพื่อเป็นสารตั้งต้นในการทำอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอางค์

หากหลายๆท่านที่เคยไปเที่ยวชมไร่โสมที่ประเทศเกาหลีมาแล้ว ลองสังเกตุหรือนึกย้อนกลับไปดีๆ ท่านจะพบว่า ชาวสวนโสมนั้น มีผิวพรรณที่ดีมาก แม้ว่าจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังดูเปล่งปลั่ง #ผิวพรรณหน้าตาดูสดใส แก้มเป็นสีชมพู ดูมีเลือดฝาด รวมทั้ง ยังดูกระปรี้กระเปร่า #กระฉับกระเฉง ดูพวกเค้าไม่เครียด ก็เพราะชาวสวนปลูกโสมก็ต้องทานโสมเป็นเรื่องปกติ ลักษณะการทานของเค้าเหมือนทานหัวมันต้มบ้านเรา หรือ เอาไปเป็นเครื่องเคียงทานร่วมกันกับกิมจิ เมื่อทานบ่อยๆเข้าร่างกายก็จะได้รับประโยขน์จากโสมมากขึ้นเรื่อยๆ เลยทำให้ชาวสวนโสมดูไม่แก่ตามวัย เพราะอะไรก็เพราะในโสมมีสารชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติดังที่กล่าวมาข้างต้น สารตัวนี้คือ สารชาโปนิน ซึ่งทำหน้าที่ขับสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนดี หรือพูดง่ายๆสารชาโปนินจะช่วยล้างสิ่งสกปรกต่างๆออกจากร่างกายของเรา จึงส่งผลให้ทุกส่วนของร่างกายรวมไปถึงอวัยวะภายในสะอาดและมี#ภูมิคุ้มกัน อยู่ตลอดเวลา

เมื่อคุณสมบัติของโสมมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมายมหาศาลเช่นนี้ ดังนั้นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการทานโสมคือ ช่วงเวลาที่ท้องว่าง ร่างกายจะสามารถดูดซึมสารสกัดที่เราได้รับจากโสมเข้าไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้ดีที่สุด แต่ถ้าใครไม่อยากฝีนใจตัวเองว่าต้องทานโสมตอนไหนก็ไม่เป็นไร เพราะโสมเกาหลี คือแหล่งอาหารอันทรงคุณค่า จึงไม่มีข้อแม้ในการทาน เราสามารถทานโสมได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของร่างกายในด้านการรักษาว่าต้องการปริมาณโสมที่มากหรือน้อยกว่าเพียงใดเท่านั้น

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ในรากของโสมนั้นมีสาร #จินเซ็นโนไซด์ ซึ่งสารชนิดนี้มีหลายชนิด โดยจินเซ็นโนไซด์นั้นจะสะสมอยู่ในส่วนต่างๆของรากโสม โดยเราอาจจะรู้สึกแปลกใจเมื่อทราบว่า ส่วนที่มีจินเซ็นโนไซด์น้อยที่สุด คือส่วนตัว รองลงมาคือส่วนแขนขา และส่วนที่มีมากที่สุดคือ ส่วนหัว

ดังนั้นหากเราได้มีโอกาสได้ทานโสมหละก็ ไม่ต้องเกี่ยงว่าจะเป็นส่วนไหนขอบอกว่า ท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่โชคดีเพราะครั้งหนึ่งในชีวิตท่านได้มีโอกาสได้ทานพืชที่มีประโยชน์และคุณค่าอย่างสูงสุดแล้วhttp://goo.gl/FQD7La   

               

                                        โสมเกาหลี ผสม แปะก๊วย

 

ทำไมต้องโสมของร้านนี้

เพราะร้านนี้เราใช้เฉพาะโสมเกาหลี เท่านั้น ไม่ใช่โสมอเมริกา สรรพคุณคนละระดับทานของดีคุ้มค่าผลิตจากรากโสมเกาหลีสด เกรด A อายุ 6 ปี มาผ่านกระบวนการทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว เพาะป้องกันเอ็มไซด์จะทำลายสารจินเซนโนไซน์ในรากโสม หลังจากผ่านกรรมวิธีทำให้แห้งแล้ว ก็นำมาบดเป็นผงละเอียด 100% ผ่านการตรวจสอบแล้วควบคุมความชื้นให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แล้วนำมาบรรจุแค็ปซูล ขนาด 500 มิลลิกรัม

ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพราะผู้ผลิตโสมมีมาตรฐานการผลิตที่แตกต่างกัน

  • มีผลต่อสมรรภาพของร่างกาย / ป้องกันความชรา

  • ช่วยป้องกันความอ่อนเพลีย , ความเมื่อยล้า

  • ทำให้ร่างกายมีความทนทานต่อการทำงานหรือการออกกำลังกายได้ยาวขึ้น ช่วยให้ร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ

  • ช่วยฟื้นฟูความสมบูรณ์ของร่างกาย โดยเฉพาะหลังอาการเจ็บป่วย

  • ป้องกันความชรา กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ของอวัยวะต่างๆ

  • ผลต่อระบบการไหลเวียนของโลหิต / ความดันโลหิต / ปริมาณน้ำตาลในเลือด

  • ช่วยทำความสะอาดหลอดเลือด ขจัดไขมันตามผนังหลอดเลือด

  • ขจัดสารพิษต่างๆในเลือด ช่วยให้เกล็ดเลือดมีความสมบูรณ์

  • กระตุ้นการเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาว ป้องกันโรคโลหิตจาง

  • ปรับระบบความดันของโลหิต ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว

  • ป้องกันการช็อกในภาวะที่เสียเลือดมาก ช่วยในสตรีที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับรอบเดือน

  • บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ

  • ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน

  • ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน

  • ช่วยปรับสภาพร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล ป้องกันการติดเชื้อ

  • เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ สุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ เป็นหวัดง่าย แพ้อากาศ ไอหรือจามบ่อยๆ

  • ผลต่อระบบประสาทสัมผัส และระบบความจำ

  • ใช้กระตุ้นให้ร่างกายมีความตื่นตัว ป้องกันและลดความเครียด

  • ทำให้สมองปลอดโปร่ง เสริมสร้างระบบความจำ

  • ยืดอายุเซลล์สมอง ช่วยให้ผ่อนคลาย

  • ผลต่อระบบการย่อย การดูดซึมและการขับถ่าย

  • ช่วยป้องกันโรคอ้วน ไขมันสะสม ฮอร์โมนผิดปกติ

  • โรคลำไส้อักเสบ

  • ท้องผูก ริดสีดวงทวาร

  • ผลต่อระบบอวัยวะภายใน (หัวใจ ตับ ปอด ม้าม ไต)

  • ควบคุมการผลิตและการทำงานของฮอร์โมนต่างๆให้อยู่ในภาวะสมดุล ป้องกันอาการเสียหาย

  • เสริมสร้างความแข็งแรงของอวัยวะภายในต่างๆ

  • ผลต่อระบบสืบพันธุ์และสมรรถภาพทางเพศ

  • กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนทางเพศ

  • ฟื้นฟูความสมบูรณ์ของเสปิร์ม และไข่

  • เพิ่มปริมาณและความแข็งแรงของเสปิร์ม

ข้อควรระวังในการใช้


1.ไม่ควรใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆ ควรใช้เป็นช่วงๆ คือนาน 1-2 เดือน แล้วหยุด 1-2 เดือน แล้วเริ่มใหม่ เพราะโสมเป็นสมุนไพรมีประโยชน์สุง มีความร้อนสูงจึงควรทานเว้น ทานเว้น
2.ควรทานโสมก่อนอาหาร 3 ชั่วโมง และไม่ควรทานพร้อมวิตามินซี หรือผลไม้รสเปรี้ยว
3.อาจพบอาการข้างเคียงถ้าใช้ในขนาดสูงกว่าที่แนะนำ เช่นความดันโลหิตสูง ตื่นเต้น กระวนกระวาย ท้องเสีย เป็นผื่นที่ผิวหนัง นอนไม่หลับ ซึ่งเรียกว่า “ginseng abuse syndrome”

 

 

 

 



ขอบคุณบทความจาก : http://www.thaiherbweb.com/product-type/3300/พลังโสมแท้-(6ปี).html

ไม่มีความคิดเห็น: