บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559

ความจริงของ สมุนไพรลดหน้าท้อง สมุนไพรไทยที่ใช้ ลดน้ำหนัก

 

 จตุผลาธิกะ

#จตุผลาธิกะ ประกอบด้วยผลไม้ 4 อย่าง คือ #สมอไทย #สมอพิเภก #สมอเทศ #มะขามป้อม ผลไม้ทั้ง 4 อย่างมีรส เปรี้ยว ฝาด ขม นำ และหวานน้อยตาม เมื่อมา

ประกอบกันในอัตราส่วนเสมอภาค มีสรรพคุณในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเสมหะ เมือกมัน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในอวัยวะหลายส่วน เช่น ปอด หลอดอาหาร หัวใจ

หลอดเลือด ลำไส้ เมื่อใดที่เสมหะ เมือกมันมีส่วนเกินเนื่องจากอาหาร หรือมีไข้ การกำจัดส่วนเกินไปเป็นสิ่งจำเป็น มิฉะนั้นร่างกายก็จะป่วยไข้ได้

ความขมในจตุผลาธิกะ จะไปช่วยปรับระดับองค์ความร้อนในร่างกาย ขณะที่ความหวาน จะช่วยเชื่อมสมานเนื้อเยื่อให้สมบูรณ์ ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ยาชุดนี้เป็น

ยาที่ช่วยขจัด ควบคุม และบำรุง ไปในตัว นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการขับถ่ายของเสียในร่างกายที่ออกมาในรูปของลม อุจจาระ เหงื่อ อีกด้วย

มีผลงานวิจัยสรุปว่า เป็นยาที่ช่วยต่อ #ต้านอนุมูลอิสระ ต้านอย่างไร ก็ได้อธิบายไปในเรื่องการกำจัดเสมหะและเมือกมันส่วนเกินไปแล้ว ผู้ที่มีสิวมาก ทานยาชุดนี้

จะช่วยแก้สิวเป็นผลพลอยได้

สรุปได้ว่าเป็นยาที่ช่วยรักษาสมดุลของธาตุทั้งสี่ เวลาเช้าก่อนทานอาหาร ทานบ้างหยุดบ้าง อย่าไปเคร่งครัดว่าต้องทานทุกวัน เมือใดที่รู้สึกว่าทานอาหารมัน

เลี่ยน ก็ทานมากหน่อย เมื่อใดที่รู้สึกว่าอาหารที่ทานเข้าไปเป็นอาหารที่ดี สารพิษน้อย ก็หยุดทานได้ จะกำหนดตายตัวไม่ได้ว่า เท่าใดจึงพอไม่ได้ เพราะธาตุและ

สภาพร่างกาย วิธีการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร อารมณ์ อากาศที่ได้รับของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

สรรพคุณ จตุผลาธิกะ

การศึกษาวิจัยในห้องทดลองพบว่า จตุผลาธิกะสมุนไพรไทยทั้ง 4 ชนิด มีคุณสมบัติในการกำจัดอนุมูลอิสระได้สูงมาก ดังนั้น เป็น จตุผลาธิกะ #สมุนไพรลดน้ำ

หนัก #สมุนไพรลดหน้าท้อง #สมุนไพรลดความอ้วน ที่

1. ช่วยให้ผิวขาวปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ #ผิวพรรณดี เปล่งปรั่ง สามารถนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ช่วยทำให้หน้าท้องแบบราบ ถ่ายไขมันออกโดยเฉพาะหน้าท้อง

3. #บำรุงเลือด การทำงานของเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดง คนส่วนใหญ่มักจะไม่ตระหนักถึงความสำคัญของระบบเลือด ทั้งที่ระบบเลือด ทางสายเอกที่จะนำ

เอาอาหาร ออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ผิวขนาดเดียวกันก็กลับนำสารพิษของเสียออกมาทิ้ง และโรคหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดอย่างคาดไม่ถึง ฉะนั้นสมุนไพร

ทองเนื้องามตัวนี้มีสรรพคุณ ช่วยปรับสมดุลธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ นั่นเองและเป็นสมุนไพรลดความอ้วน

เมื่อทาน จตุผลาธิกะ (ทานร่วมกับสมุนไพรลดน้ำหนักอื่นๆตามรายการล่างสุดได้อย่างดี)

เดือนแรก ถ่ายดำ เมือกมันสูง

เดือนที่สี่ พุง #หน้าท้องยุบ อย่างรู้สึกได้ น้ำหนักลดลง ผิวดี สีสม่ำเสมอ

ทานต่อเนื่องเพื่อน้ำหนักลด ไม่มีอาการปวดหัว ใจไม่สั่น ตับไม่พัง ไตไม่พัง ต่อเนื่องกัน 4-6 เดือน

จตุผลาธิกะ

#สมุนไพรลดน้ำหนัก

ตอนนี้หลายๆคนคงหา#วิธีลดน้ำหนักกันอยู่ ทั้งไปออกกำลังกาย ทั้งยอมอดอาหาร และบางคนก็เน้นทานอาหารเสริม แต่เดี๋ยวก่อนอาหารเสริมนั้นก็หาใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป เพราะอาจจะมีสารตกค้าง หรือสารอันตรายเจือปนอยู่ก็เป็นได้พวกอาหารเสริมนั้นก็ทำการสกัดมาจากสมุนไพรธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้น ทำไมเราไม่ลองมาทานผัก ผลไม้ หรือสมุนไพรสดๆ หรือนำมาปรุงอาหาร ทำเครื่องดื่มกันไปเลย ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ไม่ต้องเสียเงินซื้ออาหารเสริมลดน้ำหนักแพงๆด้วยเพราะมี#สมุนไพรไทยที่ นิยมนำมาใช้ในการช่วยลดน้ำหนักมากมาย ดังนี้

มะนาว

ถ้าจะให้พูดถึงสมุนไพรที่รสชาติเปรี้ยวจี๊ดที่สามารถลดน้ำหนักได้ ก็คงต้องนึกถึงมะนาวอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้มะนาวกลายเป็นพืชสมุนไพรยอดนิยมที่นำมาใช้ในการลดน้ำหนัก แถมสูตรในการลดน้ำหนักด้วยน้ำมะนาวก็ยังมีหลากหลายเหตุผลที่น้ำมะนาวสามารถลดความอ้วนอย่างได้ผลก็เป็นเพราะมะนาวมีกรดต่าง ๆ ซึ่งช่วยในการสลายไขมัน นอกจากนี้มะนาวยังมีวิตามินซีสูง เมื่อได้รับเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะก็จะทำให้ไขมันในร่างกายลดลง ระดับไตรกลีเซอไรด์ก็จะเป็นปกติ ไขมันเลวจะลดลงและช่วยให้ไขมันดีเพิ่มขึ้น แถมมะนาวยังมีไฟเบอร์สูง ทำให้รู้สึกอิ่มและลดความอยากอาหารได้ ใครที่กำลังอยากจะลดความอ้วนแล้วชอบรสเปรี้ยวล่ะก็ มะนาวนี่ล่ะไม่ควรพลาด

เม็ดแมงลัก

แม้ว่าเม็ดแมงลักจะไม่ได้มีสารอาหารที่ช่วยในการลดความอ้วนโดยตรง แต่เม็ดแมงลักก็สามารถช่วยใน#การควบคุมอาหารได้ เพราะเม็ดแมงลักเป็นพืชที่ไม่ก่อให้เกิดพลังงาน แถมยังสามารถพองตัวได้ถึง 45 เท่า หากนำมารับประทานก่อนอาหารก็จะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง และช่วยให้ทานอาหารได้น้อยลงนอกจากนี้เม็ดแมงลักยังสามารถรับประทานได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ปลอดภัยต่อหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรอีกด้วย แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบกินเม็ดแมงลักจืดๆก็ลองนำไปกับผสมเครื่องดื่อื่นๆ ได้ตามใจชอบ แต่ก็ต้องนำไปแช่น้ำให้พองจนเต็มที่ก่อน ไม่งั้นอาจทำให้ท้องอืดและท้องผูกแทน

ลูกสำรอง

ลูกสำรอง หรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า "พุงทะลาย" ซึ่งก็มีสรรพคุณในการลดความอ้วนได้เหมือนชื่อเลยล่ะ เพราะลูกสำรองเมื่อนำไปแช่น้ำก็จะเกิดการพองตัวและเมื่อรับประทานเข้าไปก็จะ ทำให้อิ่มและทานอาหารได้น้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดไขมันให้ออกมาจากร่างกาย ล้างไขมันที่อยู่ในลำไส้ ด้วยการดูดซับไขมันเอาไว้แล้วขับออกมาในรูปแบบของการขับถ่ายแต่ก็มีข้อมูลทางเภสัชวิทยาพูดถึงการกินลูกสำรองติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดลดลงได้ ดังนั้นถ้าคิดจะใช้ลูกสำรองในการช่วยลดน้ำหนักก็ควรจะรับประทานให้พอเหมาะ

กระเจี๊ยบแดง

กระเจี๊ยบแดงที่เรานำมาทำเป็นน้ำกระเจี๊ยบ เป็นพืชสมุนไพรที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะกลีบเลี้ยงของดอก หรือกลีบที่เหลือที่ติดอยู่กับผลสามารถใช้เป็น#ยาลดไขมันในเส้นเลือด โดยได้มีการศึกษาวิจัยและทดลองกับกระต่ายที่มีไขมันสูงแล้วพบว่าระดับไตรกลี เซอไรด์ #คอเลสเตอรอล และระดับไขมันเลว (LDL) ลดลง และมีปริมาณของไขมันชนิดดี (HDL) เพิ่มมากขึ้น แล้วก็ยังช่วยบรรเทาความรุนแรงของการอุดตันหลอดเลือดแดงใหญ่จากหัวใจให้น้อยลงขณะที่ในประเทศอียิปต์ ยังมีการนำกระเจี๊ยบแดงทั้งต้นมาต้มกินเป็นยาลดน้ำหนัก เนื่องจากเป็นยาระบายและยังช่วยฆ่าเชื้อในลำไส้ได้อีกด้วย แต่เราไม่จำเป็นตองไปหาต้นกระเจี๊ยบมาต้มกินก็ได้นะคะ ถ้าอยากลดน้ำหนักด้วยกระเจี๊ยบจริง ๆ ละก็ ก็ลองหาน้้ำกระเจี๊ยบที่ไม่ผสมน้ำตาลมาดื่มก็จะช่วยได้เหมือนกันนะ

คำฝอย       

#ดอกคำฝอย เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ดีต่อการลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยขับเหงื่อ ซึ่งเหมาะมากหากจะนำมาชงดื่มก่อนนอน เพราะเป็นยาระบายอ่อน ๆ สามารถช่วยในการขับถ่าย ลดหน้าท้อง และช่วยลดน้ำหนัก ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถหาซื้อดอกคำฝอยสำเร็จรูปมาชงดื่มได้ง่ายแต่ถ้าใครชอบความสดใหม่มากกว่าก็สามารถหาซื้อดอกคำฝอยที่มีสีแดงจัดมาต้มใน น้ำเดือดประมาณ 5 นาที แล้วกรองเอาแต่น้ำ ถ้าหากอยากได้รสชาติหวานก็สามารถเติมน้ำตาลได้ตามชอบ แต่ถ้าหากจะดื่มเพื่อลดความอ้วนล่ะก็ ควรจะเปลี่ยนมาใส่หญ้าหวานแทนเพื่อให้ได้รสชาติหวาน แถมยังได้ลดความอ้วนได้อีกด้วย

กะเพรา

กะเพราเป็นพืชสมุนไพรที่เรานิยมนำมาทำอาหารกันอย่างแพร่หลาย แถมยังเป็นอาหารยอดนิยมอีกด้วย ซึ่งสรรพคุณของกะเพรา ที่เรารู้กันดีอยู่แล้วนั่นก็คือมีฤทธิ์ขับลม ช่วยแก้จุดเสียด แน่นท้อง และแก้ปวดท้องอุจจาระได้ แต่สรรพคุณเด็ดของกะเพราอีกประการที่เราไม่ค่อยจะทราบกันนั่นก็คือ ช่วยขับไขมันและน้ำตาลทำไมอาหารตามสั่งต้องมีเมนูผัดกะเพราเนื้อ กะเพราไก่ กะเพราหมู นั่นก็เพราะนอกจากใบกะเพราจะช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้แล้ว ยังมีฤทธิ์ขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย อีกทั้งกะเพราจะช่วยขับน้ำดีในตับออกมาให้ช่วยย่อยไขมันได้ดีขึ้นด้วย

 

 กระเทียม

กระเทียม

กระเทียม สมุนไพรที่คนไทยมักนิยมนำมาทำเป็นอาหารมากที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารจานไหนก็ต้องมีกระเทียมเป็นส่วนประกอบ แต่ต้องเป็นกระเทียมสดเท่านั้นส่วนกระเทียมที่ผ่านการนำไปปรุงในอาหารแล้วไม่สามารถช่วย#ลดความอ้วนได้ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะในกระเทียมนั้นมีสารอัลลิซินซึ่งมีคุณสมบัติในการลด #คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด, ช่วยลดน้ำตาลกลูโคสในเลือด, ช่วยเสริมประสิทธิภาพของยาฆ่าเชื้อรา,ช่วยลดการอักเสบ, มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, ยับยั้งเนื้องอกและเซลล์มะเร็งบางชนิด ซึ่งมีการทดลองพบว่าถ้าหากรับประทานกระเทียมวันละ 10 กลีบ จะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลนั้นลดลง 14% ไขมันไม่ดีอย่าง LDL ลดลง 17% และไขมันดีอย่าง HDL เพิ่มขึ้นสูงถึง 41% เลยทีเดียว แต่สารอัลลิซินนั้นจะถูกทำลายเมื่อไปสัมผัสกับน้ำมันและความร้อน ดังนั้นจึงควรที่จะรับประทานกระเทียมสด ๆอย่างน้อยวันละ 3-5 กลีบเล็กก่อนอาหารเพื่อลดน้ำหนักแต่ถ้าอยากเพิ่มมวลกล้ามเนื้อด้วย ก็ให้รับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหาร ก็จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้มากขึ้นได้ แต่ก็อย่าลืมเรื่องกลิ่นปากและกลิ่นตัวด้วยเพราะกระเทียมนั้นกลิ่นแรงมาก

พริก

ไม่น่าเชื่อว่าพริกจะมีความสามารถช่วยลดความอ้วนได้ แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าพริกมีวิตามินซีสูง ซึ่งเจ้าวิตามินซีนี่ล่ะที่จะไปช่วยขยายเส้นเลือดในลำไส้และกระเพาะอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และช่วยในระบบขับถ่ายอีกด้วย นอกจากวิตามินแล้ว ในพริกยังมีสารแคปไซซิน(Capsaicin), โอลีโอเรซิน (Oleoresin) และกรดแอสคอร์บิก ซึ่งกรดแอสคอร์บิกนี่ล่ะที่มีบทบาทสำคัญในการลดความอ้วน เพราะมันจะไปช่วยให้ไขมันถูกเผาผลาญกลายเป็นพลังงานได้ดี ถ้าหากใครที่เป็นคนที่ร่างกายมีการเผาผลาญต่ำ การกินพริกเข้าไปบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้นอย่างไรก็ตาม ถึงแม้พริกจะช่วยลดความอ้วนได้ แต่ก็ต้องรับประทานเป็นจำนวนมากถึงจะได้รับสารอาหารที่อยู่ในพริกเพียงพอ ดังนั้นถ้าหากต้องการใช้พริกช่วยในการลดความอ้วน แนะนำให้รับประทานพริกในรูปแบบของสารสกัดจะดีกว่าทานแบบสด ๆ เป็นกำ ๆ ที่อาจทำให้ท้องอืด ปวดท้อง เป็นโรคกระเพาะได้อีกต่างหาก

หญ้าหวาน

หญ้าหวานถือเป็นสมุนไพรที่นอกจากจะให้ความหวานได้เหมือนน้ำตาลแล้ว ยังช่วยให้สามารถลดความอ้วนได้ด้วย เพราะหญ้าหวานเป็นพืชที่ไม่ให้พลังงานและแคลอรี่ต่ำมาก สามารถนำไปผสมกับเครื่องดื่มหรือนำไปปรุงรสชาติอาหารแทนน้ำตาลก็ได้ทั้งนั้น แถมความหวานที่ได้จากหญ้าหวานยังมากกว่าน้ำตาลถึง200-300 เท่าของซูโครส และหากรับประทานเป็นประจำก็ยังไม่มีผลข้างเคียงใดๆ

 #ขมิ้นชัน

ขมิ้นมีสารพฤกษเคมีที่เรียกว่าเคอร์คูมิน ซึ่งสารชนิดนี้จะไปช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมัน ทำให้สามารถช่วยลดไขมันได้ โดยขมิ้นชันสามารถรับประทานได้ทั้งสดและนำไปปรุงกับอาหาร ถ้าหากนำไปปรุงกับอาหารจำพวกทอดก็จะช่วยย่อยไขมันในอาหารได้อีกด้วย และที่สำคัญไม่ควรให้ขมิ้นอยู่ในความร้อนมากกว่า 65 องศาเพราะอาจจะทำให้เกิดสารสเตรอยด์ในขมิ้นได้

 

  ;

#ส้มแขก

ในผลส้มแขกมีสาร HAC หรือสารไฮดรอกซีซิตริกแอสิด อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสารที่ว่านี้เป็นสารมีคุณสมบัติที่ดีในการเข้าไปสกัดและยับยั้งการสะสม ของไขมันส่วนเกินไนร่างกาย และยังช่วยทำให้ทานอาหารได้น้อยลง จตุผลาธิกะ" href="http://www.thaiherbweb.com/articles/541606/สมุนไพรลดหน้าท้อง_จตุผลาธิกะ.html">หน้าท้องยุบ รูปร่างเพรียวขึ้น โดยคนส่วนใหญ่ก็มักจะรับประทานในรูปแบบของสารสกัดเสียมากกว่าและการเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ส้มแขกในการลดความอ้วนนั้นก็ควรเลือกขนาดปริมาณ 300–600 มก.และรับประทานตามที่ฉลากระบุเท่านั้นเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียง อย่างไรก็ตาม เราก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมัน ลดพวกของทอดของมัน และออกกำลังกายมาก ๆ เพื่อที่การลดน้ำหนักจะได้ มีประสิทธิภาพและไม่กลับมาอ้วนอีก

บุก

บุกเป็นพืชที่คนกำลังลดความอ้วนนิยมนำมารับประทาน เพราะบุกมีสารกลูโคแมนแนน ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วย กลูโคส แมนโนสฟรุคโทส มีลักษณะข้น ๆ เหนียว ๆ เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้อิ่มเร็ว เพราะความเหนียวหนืดของกลูโคแมนแนนจะชะลอการดูดซึมของกลูโคสจากทางเดินอาหาร ไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย จึงทำให้การบริโภคอาหารอื่น ๆ น้อยลงไปโดยปริยาย แถมยังมี#กากใยสูงทำให้ดีต่อลำไส้และการขับถ่ายอีกด้วย



เครดิต : http://www.thaiherbweb.com/product-type/6607/จตุผลา-ลดหน้าท้อง-ผิวงาม-.html

ไม่มีความคิดเห็น: