บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559

รักสุขภาพต้องหมั่นดูแลเท้า



เท้าของคนเรามีขนาดเล็กนิดเดียว เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวที่แบกรับไว้ โดยเฉลี่ยแล้วเท้าของคนทั่วไปจะยาวเพียงประมาณ 25 ซม.แต่ต้องรับน้ำหนักตัวของเจ้าของเท้าไม่ต่ำกว่า 50-80 กิโลกรัม รวมทั้งเป็นฐานในการทรงตัวให้กับคนที่มีส่วนสูงของร่างกายโดยเฉลี่ยยาวกว่าความยาวส่วนเท้าถึง 6 เท่า
     ทางด้านการแพทย์แผนตะวันออกจึงให้ความสำคัญกับเท้าเป็นอย่างมาก นับเป็นเวลากว่า 3000 ปีมาแล้วที่ชาวจีนโบราณเชื่อว่า ในร่างกายคนเรามีเส้นลมปราณกระจายอยู่ทั่วไป ทำหน้าที่เป็นทางเดินของเลือดลม ส่งสารอาหารและพลังงานไปหล่อเลี้ยงที่อวัยวะส่วนต่างๆ ถ้าการไหลเวียนของเลือดลมติดขัด จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้นได้

     แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ในประเทศเยอรมนี และสหรัฐอเมริกาได้ค้นพบว่าร่างกายของคเราสามารถแบงพื้นที่ออกเป็น 10 ส่วน แตละส่วนจะไปสิ้นสุดที่ปลายนิ้วมือและนิ้วเท้าของแต่ละนิ้ว ต่อมาพบว่า เมื่อกระตุ้นตำแหน่งต่าง ๆ ที่ฝ่าเท้า สามารถทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของอวัยวะต่่างๆ ได้ หลักการนวดเท้าของหลายๆ สำนักจึงอาศัยการติดต่อระหว่างพื้นที่ย่อยๆ ที่ฝ่าเท้ากับอวัยวะส่วนต่างๆ  ของร่างกายเป็นหนทางในการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยของคนไข้ได้สารพัดโรคเลยทีเดียว

     การแพทย์แผนจีนบางทฤษฎี ระบุถึงฝาเท้าของคนเราว่ามีเส้นลมปราณใหญ่ 6 เส้น เชื่อมต่อกับอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย คนจีนสมัยก่อนจึงคิดค้นการฝังเข็มกระตุ้นทีฝ่าเท้า เพื่อแก้ไขการติดขัดการไหลเวียนของเลือด รวมไปถึงการออกกำลังกายอีกหลายประเภท ไม่วาจะเป็นไทเก็ก ชี่กง ที่เน้นให้ผู้ออกกำลังกายเริ่มต้นด้วยการสะบัดเมือสะบัดเท้าในตอนเช้า เพื่อเป็นการกระตุ้นอวัยวะภายในให้ตื่นตัวขึ้น

นอกจากนี้ ข้อควรปฏิบัติเบื้องต้นในวิชาสุขอนามัยโดยทั่วไปยังยอมรับอีกด้วยวา ถ้าคนเราใช้เท้าน้องลง ไม่ออกแรงให้เท้าได้ยืนได้เดินเป็นเวลานานๆ ติดต่อกันแล้ว จะมีผลต่อเซลล์สมองของคนผู้นั้นอย่างมากมีการค้นพบว่าในรายที่ไมค่อยได้ขยับขา แรงกระตุ้นต่อสมองก็จะลดลงทำให้สมองอ่อนแอลง ถ้าปล่อยไว้นานๆ เซลล์สมองอาจจะประท้วง กลายเป็นคนสมองเฉื่อยชาได้ในที่สุด

   


ไม่มีความคิดเห็น: