ย่านาง
แคปซูล สรรพคุณ ประโยชน์และโทษของสมุนไพรรักษาโรค ใบย่านาง ตำรับยาโบราณ ช่วย “ถอนพิษไข้”
สมุนไพรรักษาโรค ใบย่านาง แคปซูล
ในยาแผนโบราณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยาสมุนไพร ย่านาง แคปซูล นี้ถูกใช้เป็นยาสมุนไพรเพื่อบรรเทาไข้
ต้านการอักเสบ สารต้านอนุมูลอิสระและป้องกันแบคทีเรีย ใบย่านางมีสารโพลีฟีนอล
ฟลาโวนอยด์อัลคาลอยด์ บีแคโรทีน และ แร่ธาตุ เช่นแคลเซียมและเหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดความเสียหายของอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ
ลดการอักเสบของอวัยวะภายใน
จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดลพบว่า ใบย่านาง
มีโภชนาการมากกว่า 10 ชนิด ประกอบด้วยสารอาหารที่อุดมด้วยธาตุอาหารมากที่สุด
ได้แก่ ไฟเบอร์ แคลเซียม เหล็ก สาร B-carotene วิตามินเอวิตามินซี
และ ฟอสฟอรัส
น้ำใบย่านาง
สามารถสกัดได้ด้วยโดยการใช้มือทั้งสองถูบนใบไปมาในน้ำจนกระทั่งสารคลอโรฟิลล์ในใบออกมาในน้ำเพื่อสร้าง
"เครื่องดื่มดีท็อกซ์"
เครื่องดื่มนี้สดชื่นมากและมีคุณสมบัติที่เย็นสบายเชื่อว่าสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้หลายแบบ
ประโยชน์ของใบย่านางกับการรักษาโรค
แพทย์ทางเลือกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ใช้ใบที่สกัดจาก
สมุนไพรรักษาโรค ใบย่านาง แคปซูล สมุนไพรธรรมชาติเพื่อรักษาโรคบางอย่างเช่น มะเร็ง
เบาหวาน ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง ไทรอยด์เป็นพิษ ไมเกรน กรดไหลย้อน
ไซนัส ภูมิแพ้ และ อื่น ๆ อีกมากมาย จากปรัชญาการแพทย์ตะวันออกเชื่อว่าการเจ็บป่วยที่เกิดจากความไม่สมดุลของ
"พลังงาน Yin-Yang" ร่างกายอาจมี
"พลังงานหยาง"(ความร้อน)
มากเกินไปเนื่องจากรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ความเครียด การนอนไม่หลับ
การออกกำลังกายน้อย กิจกรรมทางสังคม ฯลฯ ในการรักษาความเจ็บป่วยควรเพิ่ม
"พลังงานหยิน"(ความเย็น) เพื่อให้ร่างกายมีความสมดุลซึ่งก็คือ
การทานสมุนไพรเย็น การกินอาหารเพื่อสุขภาพ ลดความเครียดน้อยลง การออกกำลังกายช้า ๆ
มีเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จมากมายที่อยู่เบื้องหลังการใช้ สมุนไพร ใบย่านาง
จากผู้ปฏิบัติงานเหล่านั้น เมื่อร่างกายไม่สมดุลระหว่าง "อบอุ่น" และ
"เย็น" ปัญหาสุขภาพหลายอย่างอาจเกิดขึ้น
แพทย์สมุนไพรทางเลือกยังแนะนำว่า "ย่านาง"
ซึ่งจัดเป็นสมุนไพร "เย็น" สามารถปรับสมดุลระหว่าง
"อุ่นหรือหยาง" และ "เย็นหรือหยิน"
ของร่างกายหรือช่วยบรรเทาอาการหรือรักษาอาการป่วยบางอย่างได้ดังต่อไปนี้
-
สารต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดความเสียหายของอนุมูลอิสระ
- ต้านการอักเสบ ลดการอักเสบของอวัยวะภายใน
- ความผิดปกติของผิวหนัง
- แผลและแผลในช่องปาก
- การกรนปากแห้ง
- เปลี่ยนสีผมเป็นสีเทาหรือขาวก่อน
- เส้นเลือดขอด เส้นเลือดฝอยแตก
-
รอยฟกช้ำและจุดสีน้ำเงินหรือสีดำใต้ผิวหนังการเปลี่ยนแปลงใน
โทนผิวคล้ายกับผิวไหม้
- ฝี, ต่อมน้ำเหลืองทำงานผิดปกติ
- ลดการอักเสบ ปวดบวม ตามร่างกายหรือข้อต่อ
-
กล้ามเนื้อตึงกล้ามเนื้อมีความรู้สึกไวต่อการสัมผัสกล้ามเนื้อ
- ปัสสาวะที่มีสีเข้มเล็กน้อยผิดปรกติ,
- ปัสสาวะบ่อยเลือดผสมปัสสาวะกลางคืน
-ความรู้สึกแสบร้อนในกระเพาะอาหารบางครั้งก็มาพร้อมกับแก๊สในกระเพาะอาหาร
อาการกรดไหลย้อน
- ลมหายใจร้อนเสมหะเหนียว
- ง่วงนอน อ่อนเพลียง่าย
- เลือดออกจากจมูก
- ง่วงนอนหลังอาหาร
- ไม่สามารถยกแขนขึ้นสูงได้เนื่องจากมีไหล่ล็อค
-
เล็บที่ไม่แข็งแรงเปลี่ยนสีเล็บเปราะสีน้ำตาลหรือสีดำ
- วิงเวียน, เป็นลม, คลื่นไส้
- โรคอื่น ๆ - โรคมะเร็ง โรคเกาต์ โรคเบาหวาน
โรคความดันโลหิตสูง ไขมันสูง โรคไมเกรน กรดไหลย้อน ไซนัส ภูมิแพ้
เนื้องอก นิ่วในถุงน้ำดี โรคต่อมไทรอยด์, แผลในกระเพาะอาหาร, ตับอักเสบ, ไตวาย, กระเพาะปัสสาวะ
ฯลฯ
สำหรับโรคเบาหวาน
สมุนไพรรักษาโรค ใบย่านาง มีสรรพคุณ
เย็นดังนั้นจึงสามารถช่วยในการลดน้ำตาลในเลือดในระบบเลือด
ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีกรดมากเกินไปในร่างกายทำให้ร่างกายหยุดผลิตอินซูลิน
เนื่องจากอินซูลินช่วยเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานเมื่อร่างกายมีความเป็นกรดสูงจะหยุดการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานทำให้ผู้ป่วยสะสมระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเป็นเวลาทำงานของร่างกาย
การดื่มน้ำใบย่านาง จะช่วยลดกรดในร่างกายและทำให้ร่างกายเย็นลง
เมื่อร่างกายมีความเป็นกรดน้อยอินซูลินจะกลับมาทำงานตามปกติ เพราะฉะนั้น สมุนไพรย่านาง จะช่วยสร้างสมดุลให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
การทำน้ำคั้นใบย่านาง
ใช้ใบ 8-9
ใบล้างออกให้สะอาดและใช้เครื่องปั่นผสมกับน้ำ 1 1/2 ถ้วย
ใช้เครื่องกรองเพื่อกรองเส้นใยออก ยังสามารถผสมน้ำผึ้งเพิ่ม 1-2
ช้อนชาเพื่อเพิ่มความกลมกล่อมของน้ำใบย่านาง ดื่มเมื่อท้องว่าง 2-3
ครั้งต่อวัน สามารถทำน้ำสกัดใบย่านางได้มากขึ้นโดยใช้ใบผสมเพิ่มแล้วเติมน้ำผสมจนสีเขียวจาง
เพียงเท่านี้ก็จะได้เครื่องดื่มสมุนไพรเย็นๆ
มาดื่มดับร้อน แก้ไข้หวัด แก้ร้อนใน แถมยังได้ประโยชน์จากย่านางด้วย
ที่สำคัญคือการดื่มน้ำสมุนไพรจะช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย ทำให้รู้สึกสบายตัว
อีกทั้งยังช่วยให้การเผาผลาญไขมันได้อีกด้วย
ได้รู้ถึงสรรพคุณและประโยชน์ทุกส่วนของสมุนไพรรักษาโรค
ใบย่านางกันไปแล้ว...ต้องเรียกว่าเป็นสมุนไพร
ยาอายุวัฒนะที่เราควรหามาปลูกไว้ในบ้าน เด็ดใบมาต้มเป็นเครื่องดื่มประจำ
กันดีกว่าค่ะ หรือหากไม่สะดวกจะหาแบบแคปซูลมาทานก็ไม่ว่ากันนะค่ะ ได้คุณค่า
สรรพคุณทางยาไม่ต่างกันค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น